ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม 2567

“สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2567 มีสัญญาณชะลอตัวจากการส่งออกสินค้าที่หดตัวสูง การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า กำลังซื้อของผู้บริโภค และปริมาณการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม 2567 ว่า “สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2567 มีสัญญาณชะลอตัวจากการส่งออกสินค้าที่หดตัวสูง การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า กำลังซื้อของผู้บริโภค และปริมาณการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป” โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณหดตัวจากเดือนก่อนหน้า: โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.2 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -3.4 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -24.8  และ -17.5 ตามลำดับ และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -8.5 และ -5.7 ตามลำดับ และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนมีนาคม 2567 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 63.0 จากระดับ 63.8  ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ดีรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 2.8 
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณหดตัวจากเดือนก่อนหน้า: โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากสะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 12.0 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -12.2 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -32.8 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -6.2 สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -11.8 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.4 ขณะที่ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ –13.5
มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ 24,960.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -10.9 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า หดตัวลงที่ร้อยละ -5.6 เนื่องจากปัจจัยฐานสูงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้สินค้าในหมวดน้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -45.6 -16.7 -12.4 และ -11.8 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายางพารา ข้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง ยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 36.9 30.6 และ 29.6 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ปรับตัวลดลงในหลายตลาด อาทิ ตลาดญี่ปุ่น อาเซียน-9 และจีน ที่ลดลงร้อยละ -19.3 -15.7 และ -9.7 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ตลาดทวีปออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวร้อยละ 13.5 และ 2.5 ตามลำดับ 
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน สำหรับภาคบริการมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน: 
โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมีนาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.98 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่¬¬อนที่ร้อยละ 31.4 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.3 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 22.4 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 9.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 9.1 ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -4.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -1.3 จากการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก ยางพารา และมันสำปะหลัง อย่างไรก็ดี ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ยังคงขยายตัว สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 92.4 จากระดับ 90.0 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นต้วต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและการขยายตัวของภาคการส่งออก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทย
เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี: สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ร้อยละ -0.47 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.37 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ร้อยละ 62.5ต่อ GDP1 ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 อยู่ในระดับสูงที่ 223.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
_________________________

“สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2567 มีสัญญาณชะลอตัวจากการส่งออกสินค้าที่หดตัวสูง 
การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวจากเดือนก่อน อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า กำลังซื้อของผู้บริโภค และปริมาณการผลิตภาคอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป”
1. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณหดตัวจากเดือนก่อนหน้า: โดยภาษีมูลค่าเพิ่ม 
ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 0.2 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -3.4 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและยอดรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -24.8 และ -17.5 ตามลำดับ และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -8.5 และ -5.7 ตามลำดับ และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนมีนาคม 2567 ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 63.0 จากระดับ 63.8  ในเดือนก่อน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ดีรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 2.8

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน    2566    2566    2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    ก.พ.    มี.ค.    YTD
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ (%yoy)    −1.7%    0.5%    −2.7%    −6.4%    1.9%    0.9%    5.7%    0.2%    0.9%
%qoq_SA / %mom_SA        2.7%    −2.8%    −1.6%    3.9%    1.5%    5.7%    −3.4%    
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง    10.3%    2.3%    17.2%    10.5%    13.0%    −15.3%    -20.1%    −24.8%    −15.3%
%qoq_SA / %mom_SA         24.5%    7.0%    −5.3%    −10.0%    −8.0%    -10.7%    −8.5%    
ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)    4.6%    13.5%    6.6%    0.3%    −2.3%    −10.2%    −10.0%    −17.5%    −10.2%
%qoq_SA / %mom_SA         4.9%    −1.2%    −1.0%    −4.8%    −3.4%    −5.1%    −5.7%    
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (%YoY)    −0.7%    −0.8%    −4.3%    −0.1%    2.5%    −0.7%    10.4%    −9.0%    −0.7%
%qoq_SA / %mom_SA         5.8%    −1.9%    1.8%    −2.7%    1.9%    11.0%    −16.5%    
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ)    56.7    52.7    55.8    57.1    61.0    63.2    63.8    63.0    63.2
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY)    −2.1%    −2.5%    −5.4%    −0.8%    −0.6%    1.1%    0.0%    2.8%    1.1%

2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณหดตัวจากเดือนก่อนหน้า: โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากสะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนมีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 12.0 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -12.2 ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -32.8 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -6.2 สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -11.8 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -2.4 ขณะที่ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ –13.5

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน    2565    2566    2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    ก.พ.    มี.ค.    YTD
เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร                                             
ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน (%YoY)    3.8%    −4.7%    1.2%    3.6%    16.5%    16.6%    27.1%    12.0%    16.6%
%qoq_SA / %mom_SA         6.4%    6.1%    −1.8%    5.3%    6.1%     18.0%    -12.2%    
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ (%YoY)    −17.3%    −10.2%    −12.8%    −22.9%    −23.3%    -29.7%    -29.4%    -32.8%    -29.7%
%qoq_SA / %mom_SA         0.7%    −5.5%    −8.5%    −11.5%    -4.7%    -4.3%    -6.2%    
เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง                                           
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ (%YoY)    −2.4%    19.3%    −5.1%    0.4%    −17.5%    -11.5%     −15.4%    -13.5%    -11.5%
%qoq_SA / %mom_SA         1.1%    -5.2%    0.0%    −13.8%     8.3%    −8.2%    -2.5%    
ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY)    1.2%    −3.3%    3.9%    5.0%    −0.4%    -9.1%    −7.7%    −11.8%    −9.1%
%qoq_SA / %mom_SA         2.0%    2.5%    0.1%    −4.6%    -7.0%    −0.5%    −2.4%    
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY)    0.1%    2.2%    −1.2%    −0.2%    −0.2%    -1.1%    −1.1%    -1.2%    −1.1%

3. การใช้จ่ายงบประมาณ: การเบิกจ่ายงบประมาณ ในเดือนมีนาคม 2567 เบิกจ่ายได้รวมจำนวน 205.3 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 193.1 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 178.2 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 14.9 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 12.2 พันล้านบาท ทำให้ใน 6 เดือนของปีงบประมาณ 2567 มีการเบิกจ่ายรวม 1,571.0 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 1,480.9 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,388.6 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 92.2 พันล้านบาท และการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 90.0 พันล้านบาท

เครื่องชี้ภาคการคลัง    FY2566    FY2566    FY2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    Q2    ก.พ.    มี.ค.    FY/YTD
รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)    3,088.4    982.2    709.7    742.1    654.3    910.1    570.7    171.9    193.1    1,480.9
ษาเด๑ดยน %YoY    5.3%    -0.1%    17.1%    9.3%    -1.4%    -7.3%    -19.6%    -29.4%    -22.2%    -12.5%
รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)    2,610.2    858.7    600.5    625.2    525.6    859.1    529.5    158.7    178.2    1,388.6
%YoY    3.7%    -3.1%    16.5%    9.5%    -3.4%    0.0%    -11.8%    -23.9%    -11.3%    -4.8%
รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)    478.1    123.4    109.2    116.8    128.6    51.0    41.2    13.1    14.9    92.2
%YoY    15.0%    27.3%    20.0%    7.8%    7.7%    -58.6%    -62.2%    -62.2%    -68.6%    -60.3%
รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)    173.9    58.9    44.5    27.9    42.5    53.5    36.4    11.2    12.2    90.0
%YoY    -18.6%    -22.0%    -22.7%    -12.2%    -12.6%    -9.1%    -18.1%    -13.1%    -25.0%    -12.9%
รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)    3,262.3    1,041.1    754.2    770.0    696.8    963.7    607.2    183.1    205.3    1,571.0
%YoY    3.7%    -1.7%    13.6%    8.3%    -2.1%    -7.4%    -19.5%    -28.6%    -22.4%    -12.5%

4. มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ 24,960.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -10.9 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า หดตัวลงที่ร้อยละ -5.6 เนื่องจากปัจจัยฐานสูงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้สินค้าในหมวดน้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ หดตัวลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -45.6 -16.7 -12.4 และ -11.8 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้ายางพารา ข้าว และอาหารสัตว์เลี้ยง ยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 36.9 30.6 และ 29.6 ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ปรับตัวลดลงในหลายตลาด อาทิ ตลาดญี่ปุ่น อาเซียน-9 และจีน ที่ลดลงร้อยละ -19.3 -15.7 และ -9.7 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ตลาดทวีปออสเตรเลีย และสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวร้อยละ 13.5 และ 2.5 ตามลำดับ 
ประเทศคู่ค้าหลัก 16 ประเทศ    สัดส่วน 2566    2566    2566    2567
            Q1    Q2    Q3    Q4     Q1    ก.พ.    มี.ค.    YTD
ส่งออกไปทั้งโลก    100.0%    -1.0%    -3.3%    -5.2%    -0.5%    5.8%    -0.2%    3.6%    -10.9%    -0.2%
สหรัฐฯ    17.2%    2.8%    -3.7%    1.7%    3.5%    10.2%    9.9%    15.5%    2.5%    9.9%
จีน    12.0%    -0.8%    -7.2%    -0.5%    4.3%    0.4%    -5.1%    -5.7%    -9.7%    -5.1%
ญี่ปุ่น    8.7%    0.1%    -0.3%    -2.4%    2.9%    0.0%    -9.0%    -5.8%    -19.3%    -9.0%
สหภาพยุโรป (15)    8.1%    -4.0%    -1.8%    0.8%    -8.3%    -6.9%    0.7%    1.2%    -2.1%    0.7%
ทวีปออสเตรเลีย    4.9%    3.3%    -9.6%    9.5%    3.9%    10.0%    22.0%    26.4%    13.5%    22.0%
เวียดนาม    3.9%    -15.6%    -10.1%    -22.4%    -18.0%    -11.0%    -9.5%    -18.4%    -7.9%    -9.5%
มาเลเซีย    4.2%    -6.3%    -8.0%    -7.7%    -13.4%    5.9%    -3.0%    3.0%    -12.8%    -3.0%
ฮ่องกง    3.8%    8.5%    -3.3%    -9.5%    34.7%    18.8%    23.5%    15.5%    5.3%    23.5%
สิงคโปร์    3.6%    -0.4%    -2.3%    -16.6%    -1.5%    26.8%    1.8%    -2.6%    -31.5%    1.8%
อินโดนีเซีย    3.5%    -2.9%    2.3%    -15.8%    -9.9%    16.3%    -13.5%    -0.2%    -39.7%    -13.5%
ตะวันออกกลาง    3.9%    1.6%    19.8%    -3.7%    -3.7%    -4.3%    -5.1%    -9.9%    -7.3%    -5.1%
อินเดีย    3.6%    -3.9%    3.9%    -19.4%    1.6%    1.3%    -3.5%    -7.0%    -5.9%    -3.5%
ฟิลิปปินส์    2.8%    6.1%    8.0%    -7.9%    9.0%    16.7%    -6.0%    -7.8%    -17.4%    -6.0%
แอฟริกา    2.4%    4.7%    9.9%    -8.8%    10.5%    7.8%    -17.8%    -18.2%    -11.9%    -17.8%
เกาหลีใต้    2.1%    -5.2%    -0.7%    -10.4%    -11.3%    3.8%    -7.5%    -7.7%    -6.0%    -7.5%
ไต้หวัน    1.7%    1.6%    -2.6%    -7.3%    5.2%    13.6%    -2.5%    3.9%    -13.0%    -2.5%
อาเซียน-9    23.5%    -7.1%    -3.0%    -15.2%    -12.7%    4.6%    -0.5%    1.2%    -15.7%    -0.5%
อาเซียน-5    14.1%    -1.6%    -1.0%    -12.2%    -5.5%    15.7%    -5.2%    -1.2%    -26.1%    -5.2%
อินโดจีน-4    9.4%    -14.3%    -5.7%    -19.2%    -22.0%    -8.9%    -17.9%    4.5%    0.5%    6.5%

5. เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน สำหรับภาคบริการมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมีนาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.98 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันปีก่¬¬อนที่ร้อยละ 31.4 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.3 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากจีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 22.4 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 9.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 9.1 ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ในเดือนมีนาคม 2567 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -4.6 และลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -1.3 จากการลดลงของผลผลิตในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก ยางพารา และมันสำปะหลัง อย่างไรก็ดี ผลผลิตในหมวดปศุสัตว์ยังคงขยายตัว สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 92.4 จากระดับ 90.0 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นต้วต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวและการขยายตัวของภาคการส่งออก ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทย

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน    2566    2566    2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    ก.พ.    มี.ค.    YTD
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY)    0.7%    2.2%    1.2%    1.2%    −1.0%    −4.9%    −5.9%    −4.6%    −4.9%
%qoq_SA / %mom_SA        2.1%    0.7%    −1.8%    −1.7%    −2.1%    −0.2%    −1.3%    −2.1%
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY)    -3.8%    −2.1%    −4.9%    −5.3%    -2.9%    -2.9%*    -2.8%    n.a.    -2.9%*
%qoq_SA / %mom_SA        −0.9%    −2.6%    0.2%    −1.3%    n.a.    0.5%    n.a.    
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%)    59.6%    64.2%    58.6%    58.4%    57.4%    59.5%*    59.8%    n.a.    59.5%*
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรร (ระดับ)    92.6    96.0    93.9    91.2    89.4    91.0    90.0    92.4    91.0
นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY)    154.4%    1,237.4%    311.4%    97.9%    49.1%    43.5%    58.6%    31.4%    43.5%
%qoq_SA / %mom_SA        −73.4%    459.7%    −1.1%    −6.8%    −68.6%    14.5%    1.3%    −68.6%
จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)    22.7%    36.0%    24.9%    18.2%    14.3%    8.6%    9.1%    9.9%    8.6%
%qoq_SA / %mom_SA        13.8%    27.4%    -2.6%    -15.7 %    2.0%    8.0%    9.1%    
หมายเหตุ * 2 เดือนแรกในไตรมาสที่ 1 ปี 2567

6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี: สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2567 อยู่ที่ร้อยละ -0.47 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.37 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 อยู่ที่ร้อยละ 62.5ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 อยู่ในระดับสูงที่ 223.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ    2566    2566    2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    ก.พ.    มี.ค.    YTD
ภายในประเทศ                                    
อัตราการว่างงาน (%)    1.0%    1.0%    1.1%    1.0%    0.8%    1.0%    1.0%    1.0%    1.0%
สัดส่วนผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสะสมต่อจํานวนผู้ประกันตน ม.33 (%)    1.74%    1.94%    2.13%    1.93%    1.74%    1.78%    1.72%    1.84%    1.84%
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY)    1.23%    3.88%    1.14%    0.52%    −0.53%    −0.78%    −0.77%    −0.47%    −0.78%
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY)    1.27%    2.23%    1.51%    0.76%    0.60%    0.44%    0.43%    0.37%    0.44%
หนี้สาธารณะต่อ GDP (%)    61.9%    61.3%    61.6%    62.4%    61.9%    62.5%    62.5%    n.a.    62.5%
ภายนอกประเทศ                                    
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)    6.6    3.5    −1.1    2.6    1.5    1.8*    2.0    n.a.    1.8*
ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)    224.5    224.5    218.2    211.8    224.5    252.9    251.8    223.4    223.4
ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)    30.1    27.1    30.5    29.8    30.1    29.6    29.4    29.6    29.6
หมายเหตุ * 2 เดือนแรกในไตรมาสที่ 1 ปี 2567


------------------------------------------------------
1GDP คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross domestic product: GDP)
ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) ในเดือนมีนาคม 2567
เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจรายเดือน    2566    2566    2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    ก.พ.    มี.ค.    YTD
ภาวะเศรษฐกิจภายนอก                                             
ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล) /7    82.0    80.3    77.7    86.8    89.7    81.6    81.2     84.7    81.6
อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/7    5.25–5.50    4.75-5.00    5.00–5.25    5.25–5.50    5.25–5.50    5.25–5.50    5.25–5.50    5.25–5.50    5.25–5.50
ด้านอุปสงค์                                            
การบริโภคภาคเอกชน                                            
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY)/1    -1.7    0.5    −2.7    −6.4    1.9    0.9    5.7    0.2    0.9
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/13    10.3    2.3    17.2    10.5    13.0    -15.3    -20.1    -24.8    -15.3
ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ 
(%YoY)/12    4.6    13.5    6.6    0.3    −2.3    -10.2    -10.0    -17.5    -10.2
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /14    -0.7    −0.8    −4.3    −0.1    2.5    -0.7    10.4    -9.0    -0.7
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /5    56.7    52.7    55.8    57.1    61.0    63.2    63.8    63.0    63.2
การลงทุนภาคเอกชน                                            
ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY)/14    3.8    −4.7    1.2    3.6    16.5    16.6     27.1    12.0    16.6 
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์  (YoY)/13     -17.3    −10.2    −12.8    −22.9    −23.3    -29.7    -29.4    -32.8    -29.7
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม (%YoY) /1      -2.4    19.3    −5.1    0.4    −17.5    −11.5    −15.4    -13.5    −11.5
ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14    1.2    −3.3    3.9    5.0    −0.4    −9.1    −7.7    −11.8    −9.1
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /4    0.1    2.2    −1.2    −0.2    −0.2    -1.1    −1.1    -1.2    −1.1
การค้าระหว่างประเทศ                                            
มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ); ระบบศุลกากร/4    284.6    71.2    71.6    71.9    69.9    71.0    23.4    25.0    71.0
(%YoY) /4    −1.0    −3.3    −5.2    −0.5    5.8    -0.2    3.6    -10.9    -0.2
ราคาสินค้าส่งออก  (%YoY) /4     1.2    2.0    0.3    1.1    1.4    1.3    1.3    1.6    1.3
ปริมาณการส่งออก  (%YoY) /14    −2.1    −5.1    −5.4    −1.6    4.4    -1.5    2.3    -12.2    -1.5
มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ระบบศุลกากร/4    289.8    72.7    73.5    71.4    72.1    75.5    23.9    26.1    75.5
(%YoY) /4    −3.7    −0.7    −7.7    −10.7    5.8    3.8    3.2    5.6    3.8
ราคาสินค้านำเข้า  (%YoY) /4     −0.8    2    −3.1    −1.7    −0.5    -1.1    -1.6    0.1    -1.1
ปริมาณการนำเข้า (%YoY) /14     −2.9    −2.6    −4.7    −9.2    6.3    5.0    4.8    5.5    5.0
ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ);ระบบศุลกากร/4     −5.2    −1.5    −1.9    0.5    −2.3    -4.5    -0.5    -1.2    -4.5
ด้านอุปทาน                                            
ภาคการเกษตร                                            
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /6    0.7    2.2    1.2    1.2    −1.0    −4.9    −5.9    −4.6    −4.9
ดัชนีราคาสินค้าเกษตร  (%YoY)  /6    −2.0    −1.2    −5.3    −1.6    0.1    5.6    5.5    7.4    5.6
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /14    −2.1    −2.5    −5.4    −0.8    −0.6    1.1    0.0    2.8    1.1
การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3    1.1    1.6    −0.2    2.0    1.0    5.2p    -5.7    -4.7    -5.2
ภาคอุตสาหกรรม                                            
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /9     -3.8    −2.1    −4.9    −5.3    −2.9    -2.9    -2.8    n.a.    -2.9
มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /4    -9.7    −5.0    −12.5    −18.4    −0.6    4.7    6.5    -1.9    4.7
ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /14    -11.8    −7.5    −14.1    −20.2    −3.2    3.1    4.7    −3.7    3.1
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /9     59.6    64.2    58.6    58.4    57.4    59.5    59.8    n.a.    59.5
การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /3    0.4    -0.1    1.8    1.0    3.5    1.4p    3.7    1.5    1.4
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/8    92.6    96    93.9    91.2    89.4     91.0    90.3    92.4    91.0
ภาคบริการ                                            
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ(ล้านคน)/10    28.15    6.53    6.44    7.09    8.1    9.37    3.35    2.96    9.37
(%YoY)  /14    154.4    1,237.40    311.4    97.9    49.1    43.5    58.6    31.4    43.5
จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10    22.7    36    24.9    18.2    14.3    8.6     9.1    9.9    8.6
การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /3    2.8    4.0    2.9    1.0    3.5    1.4p    1.8    2.4    1.4
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ                                             
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)/2    34.8    33.9    34.5    35.2    35.7    35.7    35.9    36.0    35.7
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2    6.6    3.5    −1.1    2.6    1.5    1.8*    2.0    n.a.    1.8*
ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2    224.5    224.5    218.2    211.8    224.5    252.9    251.8    223.4    223.4
ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2    30.1    27.1    30.5    29.8    30.1    29.6    29.4    29.6    29.6
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ                                            
อัตราการว่างงาน (%) /3    1.0    1.0    1.1    1.0    0.8    1.0    1.1    1.0    1.0
สัดส่วนผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานสะสมต่อจำนวนผู้ประกันตน ม.33 (%)    1.74    1.94    2.13    1.93    1.74    1.78    1.72    1.84    1.84
ดัชนีราคาผู้ผลิต  (%YoY)  /4    −2.4    0.7    −5.0    −3.4    −1.8    1.2    1.2    2.1    1.2
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป  (%YoY)  /4    1.23    3.88    1.14    0.52    −0.53    −0.78    −0.77    −0.47    −0.78
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY)  /4    1.27    2.23    1.51    0.76    0.60    0.44    0.43    0.37    0.44
หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /1    61.9    61.3    61.6    62.4    61.9    62.5    62.5    n.a.    62.5
หมายเหตุ * 2 เดือนแรกในไตรมาสที่ 1 ปี 2567  
 
เครื่องชี้ภาคการคลัง    FY2566    FY2566    FY2567
        Q1    Q2    Q3    Q4    Q1    Q2    ก.พ.    มี.ค.    FY/YTD
รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)    3,088.4    982.2    709.7    742.1    654.3    910.1    570.7    171.9    193.1    1,480.9
 %YoY    5.3%    -0.1%    17.1%    9.3%    -1.4%    -7.3%    -19.6%    -29.4%    -22.2    -12.5%
รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)    2,610.2    858.7    600.5    625.2    525.6    859.1    529.5    158.7    178.2    1,388.6
%YoY    3.7%    -3.1%    16.5%    9.5%    -3.4%    0.0%    -11.8%    -23.9%    -11.3    -4.8%
รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)    478.1    123.4    109.2    116.8    128.6    51.0    41.2    13.1    14.9    92.2
%YoY    15.0%    27.3%    20.0%    7.80%    7.7%    -58.6%    -62.2%    -62.2%    -68.6    -60.3%
รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)    173.9    58.9    44.5    27.9    42.5    53.5    36.4    11.2    12.2    90.0
%YoY    -18.6%    -22.0%    -22.7%    -12.2%    -12.6%    -9.1%    -18.1%    -13.1%    -25.0    -12.9%
รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)    3,262.3    1,041.1    754.2    770.0    696.8    963.7    607.2    183.1    205.3    1,571.0
%YoY    3.7%    -1.7%    13.6%    8.3%    -2.1%    -7.4%    -19.5%    -28.6%    -22.4    -12.5%
ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters 8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

………………………………………………………………………..


 

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 0 2169 7130

 


ไฟล์เอกสารประกอบ
ข่าว3(27เม.ย. -3 พ.ค.67).doc |

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar