ภาครัฐ เพิ่มความเข้มงวดและยกระดับความเข้มงวดมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ลดจุดความร้อน

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยพิจารณากำชับทุกจังหวัด ยกเว้นภาคใต้ ดำเนินมาตรการควบคุมการเผาในที่โล่งทุกประเภทระหว่างวันที่ 21 - 23 มกราคม 2564 หลังคาดการณ์สภาพอากาศช่วงเวลาดังกล่าวจะมีลมสงบ ความเร็วลมลดลงและการระบายตัวของฝุ่นละอองต่ำ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง ที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการเพิ่มเติมและยกระดับความเข้มงวดของมาตรการช่วงวิกฤติฝุ่นละออง เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง โรงงานอุตสาหกรรม และการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ ยังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลดฝุ่น เช่น การตรวจควันดำอย่างเข้มข้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและชุมชนเมือง กวดขันไม่ให้มีการนำรถควันดำมาสัญจรบนท้องถนน เข้มงวดตรวจสภาพรถยนต์ ลดราคาซ่อมบำรุงรถเก่า เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่ง ประชาชนและผู้ที่สนใจเข้าไปใช้บริการบำรุงดูแลรักษาเครื่องยนต์ และขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว พร้อมทั้ง ให้กระทรวงศึกษาพิจารณาหยุดโรงเรียนในพื้นที่ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานที่ได้ประกาศมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพสำหรับเด็ก ควบคู่กับแจ้งเตือนวิธีการป้องกันและวิธีดูแลสุขภาพ พร้อมจัดทำคู่มือแนวทางการลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM2.5 สำหรับสถานศึกษากำหนดแนวทางพิจารณาการปิดโรงเรียน

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวย้ำว่า ในส่วนของภาคการเกษตรได้สั่งลดการเผาในพื้นที่เกษตร โดยเฉพาะช่วงที่มีฝุ่นสะสมมาก ทั้งข้าว อ้อยและพืชไร่อื่นๆ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดมาตรการส่งเสริมเกษตรกรลดการเผาในพื้นที่และมีการใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุการเกษตรทดแทนการเผา และจัดการเชื้อเพลิงไฟป่าด้วยการชิงเก็บแล้วลดการเผา ด้านภาคอุตสาหกรรม สามารถลดพื้นที่เผาอ้อยได้ร้อยละ 80 ด้วยการส่งเสริมตัดอ้อยสดและในฤดูการผลิตปี 2563/2564 ให้โรงงานรับอ้อยไฟไหม้ไม่เกินร้อยละ 20 ของปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด และควบคุมการปล่อยฝุ่นจากโรงงานอุตสาหกรรมและสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะช่วงวิกฤติได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการงดเว้นหรือลดกระบวนการที่ก่อให้เกิดฝุ่น ขณะที่ด้านพลังงาน ได้ลดราคาน้ำมันกำมะถันต่ำช่วงวิกฤติฝุ่น แล้วกำหนดมาตรฐานน้ำมันและเครื่องยนต์ปลอด PM2.5 ภายในปี 2567 ทั้งนี้ ได้ประสานทุกจังหวัดติดตามสถานการณ์ PM2.5 และมอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดควบคุมสถานการณ์ โดยใช้อำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายที่มีอยู่ เช่น พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2550 เพื่อควบคุมพื้นที่หรือควบคุมแหล่งกำเนิด

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210121151500783


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar