นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำถึงหลักเกณฑ์ในการขอหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กรณีโรคติดเขื้อโควิด-19  หรือ COVID-19 CERTIFICATE OF VACCINATION สำหรับใช้เดินทางในต่างประเทศ โดยกำหนดให้เป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาของราชอาณาจักรไทย หรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO 

โดยกระทรวงสาธารณสุข จะออกเอกสารรับรองดังกล่าว กับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม ซึ่งสามารถยื่นเอกสารตามที่กำหนด ทั้งบัตรประชาชนตัวจริงหนังสือเดินทาง ใบรับรองการฉีดวัคซีนและหลักฐานการเดินทาง เช่น ตั๋วเครื่องบิน พร้อมชำระค่าเอกสาร 50 บาท ได้ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  คลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว  สถาบันบำราศนราดูรและสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุถึงหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศต่างๆ เช่นประเทศอิสราเอล ประกาศยกเว้นการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าอิสราเอล จากกลุ่มประเทศสีส้มรวมประเทศไทย สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 แล้ว หรือฉีดวัคซีนเข็มที่ 2  หายจากการติดเชื้อในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนและประเทศญี่ปุ่น  ประกาศให้ประเทศไทย เป็นหนึ่งใน 25 ประเทศ ที่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ สำหรับผู้ที่มีวัคซีนพาสปอร์ต ซึ่งจากมาตรการของทั้งสองประเทศนี้ เชื่อว่า จะส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวจากทั้งสองประเทศ เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และสมุยพลัสเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ การฉีดวัคซีนให้กับชาวต่างชาติในไทย ทุกกลุ่มอายุ ทุกจังหวัด สถานะล่าสุด ณ วันที่ 1 กันยายน 2564 มีผู้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ expatvac.consular.go.th แล้ว  58,505 คน  แบ่งเป็นกลุ่มมีอายุน้อยกว่า 60 ปี 46,003 คน อายุ 60 ปีขึ้นไป 12,502 คน อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ 274 คนอยู่ใน 7 กลุ่มโรค 4,189 คน ซึ่งได้มีการจัดส่งรายชื่อให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการทยอยนัดหมายฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูล