วันนี้ (26 เมษายน 2567) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสากล ประจำปี พ.ศ. 2567 เพื่อให้นายจ้างและคนงานมีความเข้าใจและเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก พร้อมยกระดับมาตรฐานในการกำกับดูแล และกำหนดมาตรการเชิงป้องกันเพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานการลดการประสบอันตรายและโรคเนื่องจากการทำงาน

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการส่งเสริม เคารพ และตระหนักถึงหลักการและสิทธิพื้นฐานในการทำงานในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงการจัดการกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอันตรายในสถานที่ทำงาน กระทรวงแรงงานได้จึงได้ยกร่างและออกเป็นกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับความร้อน แสงสว่าง และเสียง พ.ศ. 2556 ภายใต้พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 เป็นมาตรฐานในการกำกับดูแล และกำหนดมาตรการเชิงป้องกันเพื่อการปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานการลดการประสบอันตรายและโรคเนื่องจากการทำงาน นอกจากนี้ การออกกฎหมายนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดำเนินการ ผ่านกลไกทวิภาคีในระดับชาติ และระดับสถานประกอบกิจการ ความร่วมมือจากทุกระดับจะทำให้เป้าหมายสำคัญในการทำงานของพี่น้องผู้ใช้แรงงานมีความปลอดภัย ไม่เสี่ยงจากสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม อันจะทำให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ

นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานวันนี้ เนื่องจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้กำหนดให้วันที่ 28 เมษายน ของทุกปี เป็นวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เพื่อรณรงค์ส่งเสริมแนวคิดในการสร้างและพัฒนาให้เกิดเป็นวัฒนธรรมความปลอดภัยและอาชีวอนามัยอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อความปลอดภัยและอาชีวอนามัย” เพื่อมุ่งให้นายจ้างและคนงานมีความเข้าใจ และเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก รวมไปถึงการจัดการกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอันตรายในสถานที่ทำงาน งานนี้จะเป็นการหารือร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทนนายจ้าง ผู้แทนคนงาน และผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจและเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก นำไปสู่การยกระดับสิทธิพื้นฐานของพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ปลอดภัยจากอันตรายอย่างยั่งยืน

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/82202