สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระวโรกาสให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ เข้าเฝ้าถวายปัจจัยสมทบในการจัดสร้างสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) คลองเก้า อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระวโรกาสให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ เข้าเฝ้าถวายปัจจัยสมทบในการจัดสร้างสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) คลองเก้า อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี กว่า 54 ล้านบาท

 

วันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 13.30 น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลง ณ พระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ประทานพระวโรกาสให้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายมานิต ปานเอม ผู้ว่าการการประปานครหลวง นายวิบูลย์ วงสกุล ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร รองประธานกรรมการองค์การตลาด รักษาการผู้อำนวยการองค์การตลาด นายชีระ วงศบูรณะ ผู้อำนวยการองค์การจัดการน้ำเสีย นางจิรวรรณ เพ็ญพาส นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าเฝ้าถวายปัจจัยสมทบในการจัดสร้างสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) คลองเก้า อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยได้รับเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พร้อมด้วยพระมหาเถระ พระเถรานุเถระ ร่วมอนุโมทนา

โอกาสนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทูลเกล้าฯ ถวายกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ ผ้าไตร และเครื่องไทยธรรม แด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ถวายกรวยกระทงดอกไม้ ธูปเทียนแพ และผ้าไตร แด่เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์

การนี้ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระสัมโมทนียกถา ความว่า ขออนุโมทนาที่กระทรวงมหาดไทยมาร่วมบำเพ็ญกุศลสร้างสถานปฏิบัติธรรม ณ อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี อันเป็นธรณีสงฆ์ของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทั้งนี้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระอนุศาสน์สั่งสอนไว้ว่า พระพุทธศาสนาจะดำรงมั่นอยู่คู่โลกนี้ได้ ก็ด้วยกำลังของพุทธบริษัททั้งสี่ ประกอบด้วยภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ต่างทำหน้าที่อันถือเป็นกิจธุระ ในการศึกษา ปฏิบัติ และเผยแผ่พระธรรมวินัย ซึ่งการศึกษาในทางพระพุทธศาสนานั้นจำแนกออกเป็นสองสถานที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน กล่าวคือ “คันถธุระ” หมายถึง งานด้านการเล่าเรียนสืบทอดพระพุทธพจน์ และ “วิปัสสนาธุระ” หมายถึง งานด้านบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน มุ่งอบรมเจริญปัญญาให้รู้ตระหนักในพระไตรลักษณ์ “การที่ท่านมาร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรมซึ่งจะเป็นสถาบันกรรมฐานศึกษา มุ่งอบรมให้มหาชนทั้งหลายได้เข้าถึงการเจริญพระกรรมฐาน เพื่อความงอกงามทางสติปัญญา จึงเท่ากับเป็นการจรรโลงรักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่คู่โลกนี้ตลอดกาลนาน นับเป็นบุญกุศลมหาศาล ซึ่งจะอำนวยอานิสงส์ให้ท่านได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมสืบไป”

ด้าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กราบทูลถวายรายงาน ความว่า “พุทธบริษัทไทยทั่วหน้า ต่างมีบุญวาสนาที่ได้มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ผู้ทรงงามพร้อมด้วยพระศีลาจารวัตร ทรงเป็นมิ่งขวัญ หลักชัยของการพระศาสนา และประชาชาติไทย ทรงเป็นประทีปนำทางชีวิตของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ด้วยพระคติธรรมและพระโอวาทอันประเสริฐ อีกทั้งด้วยพระเมตตาบารมีอันร่มเย็น “ครั้นประจวบมงคลสมัยที่เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะทรงเจริญพระชนมายุ 8 รอบ ในวันที่ 26 มิถุนายน พุทธศักราช 2566 กระทรวงมหาดไทยจึงขอร่วมฉลองพระเดชพระคุณ โดยเสด็จพระกุศลการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) คลองเก้า อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชาวไทยและชาวโลก จำแนกเป็น 1) ถวายปัจจัย จำนวน 50 ล้านบาท สำหรับสร้างอาคารที่พักสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรม และ 2) ถวายปัจจัย 4,298,013.69 บาท สำหรับเป็นทุนเพื่อการปลูกต้นไม้และบำรุงรักษา อันจะยังให้สถานปฏิบัติธรรมเป็นรมณียสถานตามพระดำริ ซึ่งปัจจัยทั้งสิ้นรวม 54,298,013.69 บาท นี้ เป็นปัจจัยส่วนที่ได้รับจากการบริจาคบูชาพระพุทธรูปและราชสีห์ เนื่องในวาระ 130 ปีกระทรวงมหาดไทย เมื่อพุทธศักราช 2565 ด้วยแรงศรัทธาของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งราชการบริหารส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ตลอดจนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนของกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยขอปวารณา ร่วมสนับสนุนการก่อสร้างด้วยสรรพกำลังตามบทบาทหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย ดังที่ได้เคยปฏิบัติมาโดยตลอด ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ด้วยสำนึกในพระกรุณาคุณของฝ่าพระบาท อยู่เสมอมิเสื่อมคลาย”

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) ตั้งอยู่ ณ คลองเก้า อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่กว่า 127 ไร่ 1 งาน 59.7 ตร.วา ที่ได้รับการออกแบบจากอาจารย์เผ่า สุวรรณศักดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (สถาปัตยกรรมไทย) และทีมอาศรมศิลป์ โดยมีลักษณะศิลปกรรมแบบไทยประยุกต์ เน้นธรรมชาติให้มากที่สุด พร้อมกับแบ่งพื้นที่เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช ศูนย์สุขภาพ เจดีย์และพิพิธภัณฑ์ โรงเรียนพระปริยัติธรรม วิหารธรรม ที่พักสงฆ์และที่พักของฆราวาสที่มาปฏิบัติธรรมแยกเป็นเขตสังฆาวาสและฆราวาส เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา มีความเรียบง่าย เน้นประโยชน์ใช้สอย อีกทั้งยังแบ่งพื้นที่ใช้สอยเพื่อทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ และศูนย์การเรียนรู้ การดำเนินชีวิตไม่เบียดเบียนธรรมชาติและพึ่งตนเอง โดยอัญเชิญพระนามของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาน (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ใช้ชื่อว่า “สถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) ” เพื่อสร้างรมณียสถานอันสัปปายะต่อการบำเพ็ญสมณธรรมและเจริญจิตภาวนา ทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้พุทธศาสนาสำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคทุนโดยเสด็จพระกุศลก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมฯ ได้ที่บัญชี “วัดราชบพิธ เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม สมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) คลอง 9 จังหวัดปทุมธานี” ได้แก่ ธนาคารออมสิน สาขามหาดไทย เลขที่บัญชี 020-2-84356-654 หรือธนาคารกรุงไทย สาขาถนนเฟื่องนคร เลขที่บัญชี 159-0-10328-9 หรือธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตรีเพชร เลขที่บัญชี 006-2-89900-5

ข้อมูล https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/67195


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar