ปปง. เปิดให้ผู้เสียหายรายคดีดิไอคอนฯ ยื่นคำร้องขอรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน วันนี้ – 17 ก.พ. 68 ผ่าน 3 ช่องทาง

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักงาน ปปง. ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนทรัพย์สิน
(20 พ.ย. 67) ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่องให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน กรณี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ได้ร่วมกันโฆษณาทางสื่อสังคมออนไลน์ สื่อภาพและเสียงผ่านโทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงปิดประกาศป้ายโฆษณาตามสถานที่ต่าง ๆ ในลักษณะโฆษณาชวนเชื่อ เชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมเพื่อเรียนรู้การขายสินค้าออนไลน์ แต่ในช่วงท้ายของการเรียนหรืออบรมจะมีตัวแทนของบริษัทฯ ชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนซื้อสินค้ากับบริษัท ในรูปแบบหรือแพ็กเกจลงทุนในราคาต่างๆ เมื่อผู้เสียหายเลือกรูปแบบการลงทุนแล้ว ตัวแทนบริษัทฯ จะโน้มน้าวให้เพิ่มการลงทุนมากขึ้นเรื่อย ๆ กรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกและร่วมลงทุน แต่กลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่บริษัทฯ อ้างแต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้บุคคลที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้นยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา   

(22 พ.ย. 67) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดให้ผู้เสียหายรายคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 จนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมีขั้นตอนและวิธีการยื่นคำร้องฯ ดังนี้
1. ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องฯ ต้องเป็น “ผู้เสียหาย” จากการกระทำความผิดมูลฐาน โดยมีเอกสารประกอบ ดังนี้
   (1) สำเนาบัตรประชาชนของผู้เสียหาย
   (2) หนังสือมอบอำนาจพร้อมติดอากรแสตมป์ 30 บาท (กรณียื่นแทนผู้อื่น) หมายเหตุ : 1 ฉบับ ต่อผู้เสียหาย 1 ราย
   (3) สำเนาใบแจ้งความ (รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี) หรือหลักฐานการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน
   (4) สำเนาหลักฐานหรือข้อมูลการเป็นสมาชิกในเครือข่ายสมาชิก บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
   (5) สำเนาหลักฐานการสั่งซื้อสินค้าและ/หรือหลักฐานการขายสินค้า พร้อมหลักฐานสินค้าคงเหลือ หรือหลักฐานการชำระเงินเข้าร่วมกิจกรรมหรือการชำระเงินค่าโฆษณาสินค้าผ่านช่องออนไลน์ (ยิง Ad) (ถ้ามี)
   (6) สำเนารายการเดินบัญชีเงินฝากธนาคารที่เกี่ยวข้อง พร้อมสลิปการโอนเงินและ/หรือรับโอนเงิน ที่แสดงถึงมูลค่าความเสียหาย และการได้รับชดใช้คืน (พร้อมระบุรายการโอนหรือรับโอนเงินที่เกี่ยวกับคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด)
   (7) สำเนาคำให้การที่ให้ถ้อยคำต่อหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวน (ถ้ามี)
   (8) สำเนาคำฟ้องต่อศาลทั้งในคดีแพ่งหรือคดีอาญา หรือสำเนาคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล (ถ้ามี) หรือสำเนาหลักฐานการเรียกร้องค่าเสียหายหรือเยียวยาความเสียหายตามกฎหมายอื่น
   (9) สำเนาหรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้อง (ถ้ามี) เช่น หลักฐานการพูดคุยชักชวนผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันไลน์ ฯลฯ เป็นต้น
2. วิธีการยื่นคำร้องฯ
   (1) ยื่นผ่านระบบคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย (ระบบอิเล็กทรอนิกส์) คดีรายบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ซึ่งปรากฏบนหน้าเว็บไซต์สำนักงาน ปปง. www.amlo.go.th
   (2) ยื่นด้วยตนเอง ที่สำนักงาน ปปง. หรือสถานที่อื่นที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด
   (3) ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (จ่าหน้าซองมาที่ สำนักงาน ปปง. เลขที่ 422 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330) โดยวงเล็บมุมซองว่า (“ส่งแบบคำร้องขอคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายคดีรายบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก”)
3. ระยะเวลาการยื่นแบบคำร้องฯ ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 67 ถึงวันที่ 17 ก.พ. 68 ทั้งนี้ เฉพาะการยื่นด้วยตนเอง ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น. (ยกเว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์) ในกรณีที่ปรากฏในภายหลังพบว่า เอกสารหลักฐานไม่ครบถ้วน และพนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว ผู้เสียหายจะต้องดำเนินการนำส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ภายในระยะเวลาและช่องทางที่กำหนด

ระวังมิจฉาชีพหลอกเป็น จนท. ปปง.
•    เตือนผู้เสียหายโปรดระวังมิจฉาชีพปลอมเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปง. อ้างว่าจะช่วยเหลือผู้เสียหายในการขอรับเงินคืนหรือหลอกให้กดลิงก์ลงทะเบียนทางช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ 
•    สำนักงาน ปปง. ไม่มีระบบการรับลงทะเบียน/รับคำร้อง เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภท และไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ในการยื่นคำร้อง 
•    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน ปปง. 1710 (ในวันและเวลาราชการ)

สตช. สรุปความเสียหายคดีดิไอคอนฯ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้สรุปจำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายจากคดีดิไอคอนฯ เบื้องต้นผู้เสียหายที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยอดรวมสะสม (10 พ.ย. 67 เวลา 13.00 น.) จำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 3,671 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 1,235 ล้านบาทเศษ 

ศูนย์ปฏิบัติการ สตช. สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอนฯ จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ยอดรวมสะสม ณ วันที่ 10 พ.ย. 67 เวลา 13.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 6,789 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,978 ล้านบาทเศษ
•    ยอดรวมผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอนฯ จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ของ สตช. ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 10,460 ราย มูลค่าความเสียหาย 3,213 ล้านบาทเศษ

คกก. ขายตรงและตลาดแบบตรงวางมาตรการป้องกัน
(15 พ.ย. 67) ที่ประชุมคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง ครั้งที่ 2/2567 ได้สรุปผลการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 โดยสรุปข้อเท็จจริงและผลการดำเนินการกรณี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่าง ๆ ในช่วงวันที่ 9 ต.ค. 67 เป็นต้นมา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เข้าตรวจสอบสถานที่ทำการของบริษัทฯ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ตรวจดูเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ประกอบการพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
เพื่อเป็นกรณีศึกษา ที่ประชุมฯ ได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM : Department of Industrial Promotion) ได้พิจารณาเพื่อ “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” 
ตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเสนอแนวทางในการกำกับดูแลกิจการต่าง ๆ สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ
•    เมื่อเกิดการร้องเรียนจากประชาชน หากมีเพียงการเจรจา ไกล่เกลี่ย ในอนาคตอาจเกิดปัญหาอย่างเช่น กรณีบริษัทดิไอคอนฯ จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายหรือไม่
•    ต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัย เหมาะสมกับสถานการณ์สังคมยุคปัจจุบัน พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการให้มากขึ้น เพื่อป้องกันการกระทำความผิด 
•    ควรมีการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่กำกับดูแลธุรกิจขายตรงกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภค สร้างระบบการรับเรื่องร้องเรียนให้มีมาตรฐานเพื่อให้เห็นพฤติการณ์ที่ไม่ชอบมาพากลของบริษัทต่าง ๆ พร้อมตรวจสอบ กำกับได้ทันท่วงที ก่อนจะเกิดความเสียหายในวงกว้าง

นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ไข-ป้องกันธุรกิจลักษณะแชร์ลูกโซ่
(15 ต.ค. 67) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือเรื่องของการขายตรงและสินค้าออนไลน์ (The iCon Group) ได้สั่งการและมอบหมาย ดังนี้ 
•    ให้ สตช. จัดให้มีช่องทางให้ประชาชนเข้าแจ้งเบาะแสและแจ้งความได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจะลดความเข้าใจผิดของพี่น้องประชาชน 
•    ให้ สคบ. เร่งกำหนดมาตรการและการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงให้ความรู้กับประชาชนในธุรกิจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการหลอกลวง 
•    ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายไม่ให้มีการนำสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาจำหน่ายในระบบของการขายตรง หรือการขายออนไลน์
•    ให้กระทรวงการคลัง เข้าไปตรวจสอบและกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการทำธุรกิจลักษณะแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้นอีก  
 

ไทม์ไลน์การดำเนินคดีดิไอคอนฯ
(18 ต.ค. 67) สตช. เปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์คดีดิไอคอนฯ พร้อมกันทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้เสียหาย และลดความยุ่งยากในการแจ้งความ โดยไม่ต้องเดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค

(29 ต.ค. 67) กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีคำสั่งรับสำนวนการสอบสวนคดีดิไอคอนฯ กับพวก ในคดีความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ เป็นคดีพิเศษ มีความผิดต่อเนื่องหรือเกี่ยวพันกับการกระทำความผิดอาญาฐานฟอกเงิน และแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในความผิดที่เข้าข่าย พ.ร.ก. กู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือ แชร์ลูกโซ่
 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar