(17 ต.ค. 67) นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนาเรื่องการมอบนโยบาย “วิจัยนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มศักยภาพนาแปลงใหญ่และศูนย์ข้าวชุมชน เชื่อมโยงการยกระดับการผลิตข้าวไทยให้ปลอดภัยสู่ครัวโลก”
โจทย์สำคัญนโยบายเร่งด่วน “ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย”
“ข้าว” ถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมากของประเทศไทย โดยในปี 2566 สามารถส่งออกได้ถึง 8.77 ล้านตัน เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 8 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าการส่งออกถึง 178.235 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้ในการบริโภค และเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร แต่ถึงแม้ว่าข้าวจะสามารถสร้างมูลค่าการส่งออกให้แก่ประเทศได้มหาศาล แต่คุณภาพชีวิตของชาวนาไทยยังไม่สามารถหลุดพ้นจากหนี้สิน ซึ่งนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการทันทีของรัฐบาลปัจจุบัน คือ ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย โดยใช้แนวคิด “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” นำเทคโนโลยีด้านการเกษตร (Agri - Tech) เช่น เกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) และเทคโนโลยีด้านอาหาร (Food Tech) มาใช้พัฒนาอาชีพด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และอาชีพที่เกี่ยวข้อง ฟื้นนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” เพื่อตอบสนองความต้องการของโลกด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) และเร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผลการเกษตรเพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร
รมว. เกษตรฯ มอบกรมการข้าว ดูแลเกษตรกร แนะการใช้พื้นที่เพาะปลูก ส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพ
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เน้นย้ำเรื่องการผลิตให้ได้คุณภาพและปลอดภัย โดยมอบหมายกรมการข้าว ให้คำแนะนำแก่เกษตรกรในการใช้พื้นที่ที่เหมาะสม
ในการเพาะปลูก นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับเมล็ดพันธุ์ จึงส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่หรือ
ศูนย์ข้าวชุมชน และส่งเสริมให้ใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อทดแทนการใช้แรงงานในอนาคต เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้นต่อไป
ช่วยแก้ปัญชาวนาไทย วางแผนรับมือกับการแข่งขันในตลาดโลก
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวถึงการสัมมนาดังกล่าวว่า เป็นการสร้างการรับรู้ให้กับบุคลากรของกรมการข้าวได้นำนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปปรับแนวทางการปฏิบัติงานของตนเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวนาไทยในการวางแผนรับมือรองรับและปรับรูปแบบการผลิตข้าวให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย และความหลากหลายของสายพันธุ์ข้าวที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกความต้องการ และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ตลอดจนสามารถนำไปแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าข้าว และสิ่งสำคัญที่จะทำให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักของนานาประเทศ ซึ่งทุกนโยบายจะเกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน ตลอดจนการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการเป็น Team Work เป็นครอบครัวเกษตร ร่วมมือกันขับเคลื่อนงานไปสู่เป้าหมาย