"วราวุธ” ขอบคุณทุกความร่วมมือกว่า 16 ปี กับการผลักดันให้ “กลุ่มป่าแก่งกระจาน” เป็นมรดกโลก

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) แถลงผลการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกในวาระการขึ้นทะเบียนพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ผ่านทางไลฟ์สดบน Facebook Fan-page : สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังที่ประชุมมีมติให้ขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

“วันนี้ ผืนป่าแก่งกระจานที่มีพื้นที่กว่า 2.5 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 4 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ตั้งแต่จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกสำเร็จแล้ว ซึ่งจากการทำงานอย่างเต็มกำลังกว่า 16 ปี ประกอบกับความพยายามถึง 4 ครั้ง ในการนำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก และได้สำเร็จลงในครั้งที่ 4 นี้ 

การที่ผืนป่าแก่งกระจาน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทำให้ผืนป่าแห่งนี้เป็นผืนป่าของประชาชนทั่วโลก ที่พวกเราจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ รักษาไว้ และต้องทำให้สภาพผืนป่าดีที่สุด ที่ส่งต่อให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน ซึ่งผืนป่าแก่งกระจาน เป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ทางความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำหลายสายของประเทศไทย 

ทั้งนี้ ในนามของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอแสดงความยินดี และขอขอบคุณการทำงานที่เข็มแข็งของทุกภาคส่วน ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ พี่น้องประชาชน ผู้นำชุมชนในพื้นที่ รวมไปถึงสำนักงานของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ อีกทั้งสถานทูตที่อยู่ทั่วโลก ที่ร่วมกันทำงานและให้การสนับสนุน ทำความเข้าใจกับตัวแทนของประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ทั่วโลก ในการผลักดันให้ผืนป่าแก่งกระจานของประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก 

ตลอดจนขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ท่านได้กำชับและดูแลเอาใจใส่การทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนทำให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ มีขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือกัน และท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกภาคส่วนในการดำเนินงาน ซึ่งภารกิจหลังจากนี้ คือ การรักษาผืนป่ากว่า 2.5 ล้านไร่ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับการดูแลพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ให้มีความสมดุล ทั้งการดำรงชีวิต และการอนุรักษ์ผืนป่า” 

พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน นับเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย นับจากการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ - ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น - เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548 ซึ่งพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เนื่องจากเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่ใกล้สูญพันธุ์ และมีคุณค่าโดดเด่นระดับโลก รวมไปถึงเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของแม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี และแม่น้ำภาชี เป็นป่าผืนใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 2.5 ล้านไร่ (4,089 ตารางกิโลเมตร) มีความยาวตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดของพื้นที่ มากกว่า 200 กิโลเมตร โดยพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

การนำเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก ได้มีการนำเสนอมาแล้วถึง 3 ครั้ง ได้แก่ ในปี พ.ศ. 2558 ในปี พ.ศ. 2559 และในปี พ.ศ. 2562 จนมาถึงครั้งที่ 4 ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 นี้ ซึ่งเป็นการจัดการประชุมผ่านระบบทางไกลแบบเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 16 – 31 กรกฎาคม 2564 โดยมีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

-----------------------

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/44143


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar