รัฐบาล โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประกาศ
จัดงาน THACCA SPLASH : Soft Power Forum 2024 โดยงานนี้จะเป็นงานยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Soft Power ของไทยใน 11 ด้านได้แก่ อาหาร ท่องเที่ยว เฟสติวัล กีฬา การออกแบบ ศิลปะ แฟชัน หนังสือ ภาพยนตร์ ดนตรี และเกม ออกสู่สายตาชาวโลก ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันให้ผู้ประกอบการ และขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ระดับสากล
น.ส. แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมงานสัมมนา "เศรษฐกิจอีสาน" (ISAN Insight Summit 2024)
ที่เซนทรัลพลาซ่าขอนแก่น เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยได้กล่าวว่า
Soft Power คือ “เสน่ห์” ที่ดึงดูดใจให้หลงรักและชื่นชอบ เหมือนสินค้า
แบรนด์ต่างๆ ก็มีเสน่ห์ที่ดึงดูดให้เราเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นๆ รัฐบาล
จึงตั้งใจสร้างเสน่ห์ความเป็นไทย เพื่อสร้างแรงดึงดูดจากลงทุนจากต่างประเทศ และเพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาเฟื่องฟู ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบาย
ที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำคือการสร้างศักยภาพของคนไทย กลางน้ำคือการสร้างระบบนิเวศทางวัฒนธรรมเพื่อรองรับศักยภาพของคนไทย และปลายน้ำคือการส่งออกศักยภาพวัฒนธรรมสร้างสรรค์
ซึ่ง THACCA จะเป็นหน่วยงานที่จะเข้ามาดูแลอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ 11 อุตสาหกรรมทั้งระบบผ่านกลไก OFOS หรือ นโยบาย 1 ครอบครัว
1 Soft Power สร้างศูนย์การเรียนรู้ ฝึกทักษะสร้างสรรค์ด้านต่างๆ โดยมีเป้าหมายในปี พ.ศ. 2570 วัฒนธรรมสร้างสรรค์ของไทย อาทิ กีฬา ดนตรี แฟชั่น ภาพยนตร์ หรือเทศกาลสำคัญ ต้องได้รับการพูดถึงและการยอมรับในเวทีโลก
ทำความรู้จักอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น
อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นมีความสำคัญสูงต่อประเทศไทย ซึ่งรวมไปถึงสินค้ากลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย เครื่องประดับและอัญมณี หัตถกรรมและงานฝีมือ และผลิตภัณฑ์ความงาม โดยธุรกิจในอุตสาหกรรมแฟชั่นของประเทศไทย
สร้างรายได้ราว 3.9 แสนล้านบาท การส่งออกสินค้าแฟชั่นมีมูลค่ากว่า
2.2 แสนล้านบาท และการจ้างงานราว 7.5 แสนคนในปี 2564 นอกจากนี้
อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่นยังมีความสำคัญในฐานะที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ หนัง อัญมณี รวมไปถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด้านการค้าปลีก การบริการออกแบบ และการบริการโฆษณา ทั้งนี้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ได้เริ่มมีพื้นที่ในสายตาชาวโลกผ่านเวทีต่าง ๆ มีโอกาสต่อยอดให้วงการแฟชั่นไทยแข็งแรงได้ในเวทีโลก ซึ่งจุดแข็ง
ของอุตสาหกรรมสาขาแฟชั่นไทย คือ "ความคราฟต์" และ "ความสร้างสรรค์"
ด้วยดีไซน์ที่ดึงภูมิปัญญาและงานฝีมือแบบไทย ผสมผสานเข้ากับการโอบรับวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ที่เปิดกว้างและหลากหลาย ผ่านมุมมองความสนุกและ
ความคิดสร้างสรรค์ของดีไซน์เนอร์ ทำให้งานดีไซน์ของคนไทย มีความเฉพาะตัว
ไร้ขีดจำกัดสามารถผลักดันให้วัฒนธรรมแฟชั่นของไทยที่เป็นเอกลักษณ์
พร้อมสะกดสายตาผู้บริโภคในเวทีโลก
โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น เปิดเผยวิสัยทัศน์เตรียมพร้อมปักหมุดแฟชั่นไทย เป็นหนึ่งในใจตลาดโลก ส่งต่อที่สุดของ
ความคราฟต์ ผสานความสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจํากัด ด้วยแนวคิด Thailand Onlyพร้อมเตรียมผลักนโยบายและมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยไว้
3 นโยบายหลัก คือ
1) สร้างค่านิยมการใช้สินค้าแฟชั่นไทย ขยายตลาดภายในประเทศ
เตรียมทบทวนและปลดล็อกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค และปรับโครงสร้างองค์กรส่งเสริมธุรกิจแฟชั่นของไทยให้เป็นเอกภาพ และตอบโต้การทุ่มตลาด
(Anti-Dumping Agreement) เพื่อการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศจากการถูกสินค้าต่างประเทศทุ่มตลาดอันอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจและผู้บริโภคไทย
2) สร้างมาตรฐานสินค้าส่งเสริมการขยายสู่ตลาดต่างประเทศ ยกระดับมาตรฐานสินค้าที่ดี เช่น การรับรองมาตรฐานสินค้าสิ่งทอ Thailand Textile Tags เพื่อรับประกันว่าสินค้าคุณภาพสูง ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด รวมถึงการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์สินค้าไทย ส่งเสริมกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และ
การสนับสนุนเชิงรุกทบทวนและปลดล็อกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรค ส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพออกตลาดต่างประเทศ และปรับโครงสร้างองค์กรส่งเสริมธุรกิจแฟชั่นของไทยให้เป็นเอกภาพ
3) สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แรงงานแฟชั่นไทย นับว่าเป็นเรื่องการสร้างคุณค่าทางสังคม เพราะเป็นการยกย่อง และให้คุณค่าต่ออาชีพแรงงาน
ช่วยให้แรงงานรู้สึกภูมิใจในอาชีพของตน ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่สนใจ และ
อยากประกอบอาชีพแรงงานในอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศมากขึ้น พร้อมทั้งเปลี่ยนมุมมองของสังคมที่มีต่ออาชีพแรงงานที่ประกอบกับการส่งเสริมทักษะ
ด้านการบริหาร การตลาด เทคโนโลยี และภาษาอังกฤษสำหรับวิชาชีพ ตลอดจนการ Upskill Reskill ซึ่งจะช่วยยกระดับช่างฝีมือคนไทยให้ทันสมัยและ
มีความสามารถตรงตามที่ตลาดต้องการ
สำหรับไฮไลต์ของอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ในงาน “THACCA SPLASH”
เตรียมพร้อมชวนคนไทยก้าวเข้าสู่โลกแห่งแฟชั่นแบบ Thailand Only ที่สุด
ของงานคราฟต์ ผสมผสานเข้ากับความสร้างสรรค์แบบเฉพาะตัว เกิดเป็นงานดีไซน์ที่ไร้ขีดจำกัด และโดดเด่นไม่เหมือนใคร พบกับโชว์เคสด้านแฟชั่น (Showcase)
ที่รวบรวมผลงานจากดีไซน์เนอร์ตัวท็อปทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนกิจกรรม Masterclass สร้างการมีส่วนร่วมกับเยาวชน และนักศึกษาที่สนใจด้านแฟชั่น
ให้มาร่วม Upskill Reskill กับดีไซน์เนอร์ไทย และชวนมาสนุกกับการ Mix & Match สินค้าแฟชั่น พร้อมเทคนิคจากกูรูให้ทุกคนเป็นคนไทยเทสดีในทุกสถานการณ์
ทำความรู้จักอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์
ภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ไทย ได้รับความสนใจจากประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเกิดขึ้นของแพลต์ฟอร์ม Streaming ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตหน้าใหม่ได้สร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย เปิดกว้างทางจินตนาการ และยังช่วยขยายฐานคนดูสู่ตลาดต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันผลงานวงการบันเทิงไทยที่ทําเงินได้ไม่ได้มีเพียงแค่ภาพยนตร์แนว “ผี” หรือ “ตลก” เท่านั้น หากพิจารณาจาก 10 อันดับแรกของภาพยนตร์ไทยที่ทํารายได้เกิน 100 ล้านบาท ในช่วง 5 ปีหลัง พบว่าภาพยนตร์ไทยมีหลากหลายแนวขึ้น อาทิ ร่างทรง บุพเพสันนิวาส
บ้านเช่า บูชายัญ 4 KINGS และสัปเหร่อ ซึ่งเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์
ในต่างประเทศ อุตสาหกรรมสาขาภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ ยังคงถูกทิ้งห่าง
ทั้งด้านการพัฒนาบท งบลงทุน หรือการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม โดยจุดแข็งของอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ ของไทย คือ
ความสร้างสรรค์และการถ่ายท่อดเรื่องราวที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง สามารถทำให้คนดูอินไปกับเรื่องราวต่าง ๆ เปิดโอกาสให้เรื่องราวแบบไทย ๆ สามารถส่งต่อสู่เวทีโลก
โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์ พร้อมเปิดประตูวัฒนธรรมสร้างสรรค์ไทยสู่เวทีโลก ผ่านอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ละคร
ซีรีส์ ตั้งเป้าหมายยกระดับอุตสาหกรรมให้เป็น 1 ใน 5 ผู้นำทางการส่งออกวัฒนธรรมในระดับเอเชียและภูมิภาค เพื่อพาประเทศไทยเข้าสู่ยุคทอง
ของ "วัฒนธรรม" ควบคู่กับ "นวัตกรรม" ซึ่งได้วางแนวทางนโยบายและมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมไว้ 3 นโยบายหลัก คือ
1) กฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรม พ.ร.บ. ภาพยนตร์ (ฉบับใหม่)
เพื่อสนับสนุนให้เกิดการกำกับดูแลกันเอง (Self-Regulation) โดยเอกชน
จัดตั้งสภาการภาพยนตร์ไทย (Film Council) ในการผลักดันนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรม รวมทั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการผลิตและการ Co-Production
ให้ทั้งกับผู้ผลิตไทยและต่างประเทศ สนับสนุนงานเทศกาล งานฉายหนัง
ในประเทศไทย การสอดแทรกการเล่าเรื่องของคนในท้องถิ่น นำไปสู่การเปิดกว้าง
ทางด้วยความคิดสร้างสรรค์ สร้างความหลากหลายของภาพยนตร์เกิดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม
2) อํานวยความสะดวกกองถ่ายทำ One Stop Service ลดขั้นตอนและ
ความยุ่งยากของการยื่นเอกสาร โดยใช้ช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้ผลิตไทย
ขออนุญาตถ่ายทำง่ายขึ้น รัฐเอื้ออํานวยความสะดวกต่อกองถ่าย
รวมถึงการขออนุญาตถ่ายทำของกองถ่ายต่างประเทศ
3) ส่งออกผลงานไทยสู่ระดับโลก ด้วยสนับสนุนการส่งออก แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และองค์ความรู้กับต่างประเทศ ทั้งการสนับสนุนผู้ผลิตไปร่วมเทศกาลและตลาดต่างประเทศ (Film Festival / Film Market) และการสนับสนุนศิลปิน นักแสดง ไปโรดโชว์ในต่างประเทศ
ทั้งนี้ ความคืบหน้า OFOS สาขาภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ คณะอนุกรรมการฯ
วางแผนโครงสร้างระบบการเรียนรู้วิชาการภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมทั้ง
สื่อภาพเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเผยแพร่
องค์ความรู้ของหน่วยงาน Soft Power อื่นๆ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจในด้านนี้ ซึ่งมีวิธีการสร้างแหล่ง
รวมความรู้ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงเพื่อ Upskill ได้โดยง่าย
และไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับไฮไลต์ของอุตสาหกรรมด้านด้านภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ ในงาน “THACCA SPLASH” ประชาชนจะได้ชมนิทรรศกาลผลงานผู้กำกับคนไทย และงานระดับโลก ถ่ายทอดเรื่องราวให้เห็นและเข้าใจอย่างละเอียด ทั้งงานเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พร้อมกิจกรรม Masterclass เปิดให้คนที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ทดลองเขียนสคริปต์ เปิดสตูดิโอขนาดย่อมให้ทดลองถ่ายวิดีโอสั้น เป็นต้น
งาน THACCA SPLASH : Soft Power Forum 2024 ที่จะจัดขึ้นวันที่
28-30 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้จะเป็นพื้นที่สร้างโอกาส สร้างแรงบันดาลใจ เติมเต็มพลัง และสานความฝันทุกคนให้เป็นจริง ตลอด 3 วันทุกคนสามารถเข้าร่วมได้โดย “ไม่มีค่าใช้จ่าย”
ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่องทางการรับทราบข้อมูลข่าวสารการจัดงาน THACCA SPLASH สามารถติดตามได้ที่ thacca.go.th หรือ เพสเฟซบุ๊ก THACCA - Thailand Creative Culture Agency