จังหวัดมหาสารคาม มุ่งขับเคลื่อน "โคก หนอง นา" ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (CLM) อย่างครบวงจร พ่อเมืองมหาสารคามย้ำความต่อเนื่อง คือพลัง พร้อมต่อยอด ขยายผล

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติผ่านการพัฒนาคนเพื่อให้คนไปพัฒนาพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ ตามแนวคิด 76 จังหวัด 76 คำมั่นสัญญา เพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน ร่วมกับองค์การสหประชาชาติ หรือ UN โดยเมื่อวานนี้ คณะผู้บริหารจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นางพรศรี ตรงศิริ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคามและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดมหาสารคาม นำสมาชิกเหล่ากาชาดและสมาชิกแม่บ้านมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดและอำเภอ พร้อมด้วยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of life : CLM) บ้านเหล่าอีหมัน หมู่ที่ 7 ตำบลหนองเม็ก อำเภอนาเชือก โดยมี นายกิจจา หมอกเจริญ นายอำเภอนาเชือก นายพงษ์ศักดิ์ คณะมะ พัฒนาการจังหวัดมหาสารคาม พัฒนากร เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ภาคีเครือข่าย โคก หนอง นา อำเภอนาเชือก และนายกระรัญ ดาวโคกสูง เจ้าของแปลง ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมนำเสนอรายละเอียดการขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (CLM )

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานอันเเน่วเเน่ในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ CLM แห่งนี้ ได้รับการจัดสรรงบประมาณโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” งบเงินกู้ ปี 2564 กิจกรรมพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Community Lab Model for quality of life : CLM) ระดับตำบล จำนวน 1 แปลง ขนาดพื้นที่ 15 ไร่ เป็นศูนย์เรียนรู้เพียงแห่งเดียวของจังหวัดมหาสารคามที่มีการออกเเบบเเละปรับปรุงพื้นที่ตามรูปแบบแปลง โดยได้รับการสนับสนุนจากกองบัญชาการกองทัพไทย ทั้งด้านงบประมาณ ครุภัณฑ์ จำนวน 6 เครื่อง ได้แก่ เครื่องสกัดน้ำมันพืช Bio-Diesel เครื่องผสมอาหารสัตว์ (DC Motor 3HP 3) เครื่องสับย่อยอาหารสัตว์และกิ่งไม้ เครื่องบรรจุกระป๋อง เครื่องขึ้นรูปภาชนะจากวัสดุธรรมชาติ และเครื่องบำบัดน้ำเสียและเติมอากาศ เพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาการแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดมหาสารคาม ยึดหลักสำคัญในการพัฒนาอย่างสร้างสรรค์ คือ ผู้นำต้องทำก่อน ซึ่งจะช่วยดึงหุ้นส่วนความร่วมมือ (Partnership) เข้ามาช่วยขยายผล โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ ได้ประสานความร่วมมือกับทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน รวมถึงน้อมนำหลักการทรงงาน "บวร บรม ครบ" โดยมีนายกระรัญ ดาวโคกสูง เป็นผู้รับผิดชอบในการปรับปรุง พัฒนา และสร้างฐานเรียนรู้ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาดูงาน แหล่งเรียนรู้ให้แก่ประชาชนผู้ที่สนใจมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมามีคณะศึกษาดูงานต่างเดินทางมาเยี่ยมชมเเละนำเเนวคิดการพัฒนาพื้นที่แปลงโคก หนอง นา ไปใช้อย่างเเพร่หลาย ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารได้เเล้ว ยังช่วยลดผลกระทบจากภัยพิบัติ ทั้งภัยเเล้ง เเละอุทกภัย เพราะในฤดูเเล้งก็มีน้ำใช้ ในฤดูน้ำหลากโคกจะเป็นพื้นที่ป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาในบริเวณ เเปลง เเละสามารถผันน้ำเข้ามาเก็บกักไว้ในบริเวณหนองเเละคลองไส้ไก่ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการน้อมนำแนวคิดโครงการแก้มลิงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้

ในขณะเยี่ยมชมแปลง CLM นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้กล่าวให้กำลังใจพร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (CLM) แห่งนี้ ขยายผลเป็นสถานที่ที่สร้างประโยชน์ให้แก่คนในชุมชน โดยให้นำโครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง และโครงการทางนี้มีผลผู้คนรักกัน ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาประยุกต์ใช้ และการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างศูนย์เรียนรู้ให้แก่ชุมชน บนหลักคิด คือ การไม่ทำลายสิ่งเเวดล้อม พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอนให้คนรู้จัก ความพอประมาณ มีเหตุผล เเละมีภูมิคุ้มกัน บนพื้นฐานความรู้คู่คุณธรรม ลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นขั้นตอนตามกลไกการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามทฤษฎีบันได 9 ขั้น สู่ความพอเพียง คือ พอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น บุญ ทาน เก็บรักษา ขาย และสร้างเครือข่าย เชื่อมโยงกระบวนการเรียนรู้และกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อมุ่งไปสู่ "หมู่บ้านยั่งยืน : Sustainable Village" ยกระดับชุมชนให้เข้มแข็งได้อย่างยั่งยืน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ จังหวัดมหาสารคาม ยังได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สวมใส่ผ้าไทยในทุกโอกาส ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ไม่ได้เป็นเพียงการเเสดงออกถึงอัตลักษณ์ประจำถิ่น แต่เเสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตตั้งเเต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ที่เน้นการพึ่งพาตนเอง เเละใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพเสริม มีการทอผ้า ย้อมผ้า การรวมกลุ่มเพื่อพัฒนาอาชีพ เเละเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ ส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เเละกลุ่มผู้ประกอบการที่มีกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมี รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือสารตกค้างต่าง ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทั้งความสุขจากการใช้ผลิตภัณฑ์ เเละความสุขจากคุณค่าความตั้งใจของผู้ประกอบการ ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคามมีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืนในทุกมิติโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

-------------------

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/66594


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar