จ.แม่ฮ่องสอนออกคำสั่งจังหวัด 9 มาตรการเร่งด่วนในการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ฉบับที่ 4) ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกคำสั่งจังหวัด เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 4)

         ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่เดือนเมษายน 2564 ที่กระจายไปทุกจังหวัด จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มเติมการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการอย่างเร่งด่วน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีมติเห็นชอบให้กำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 23) ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงขอยกเลิกคำสั่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 3) และออกคำสั่งไว้ ดังต่อไปนี้

         ข้อ 1. ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนทุกคน สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกเคหสถาน หรือ เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

         ยกเว้นกรณีเป็นผู้ขับขี่รถยนต์และไม่มีผู้โดยสารอื่น หรือกรณีการจัดประชุม ที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และไต้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างรอบคอบ รัดกุมและเข้มงวดเพียงพอแล้ว อาจผ่อนผันให้ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถถอดหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ในช่วงเวลาที่ทำหน้าที่อภิปราย ของการประชุม

         ข้อ 2. ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าสิบคน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโรค โดยให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค ที่ทางราชการกำหนด

         ข้อ 3. มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ ในพื้นที่ควบคุม ดังนี้

                   ก.การจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้การบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และการบริโภคในร้านได้ไม่เกินเวลา 24.00 นาฬิกา

                   ข.การจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สำหรับร้านอาหาร หรือสถานที่จำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน

                   ค.ห้างสรรพสินค้า หรือสถานประกอบการอื่นทีมีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ จนถึงเวลา 21.00 นาฬิกา โดยให้ จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และให้งดบริการส่วนที่เป็นตู้เกมส์ เครื่องเล่น ร้านเกมส์ และสวนสนุก

         ข้อ 4 ขอความร่วมมือให้บุคลากรของรัฐและประชาชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน งดหรือชะลอการเดินทางในช่วงเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็น โดยเฉพาะการเดินทางเข้าไปในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ

         ข้อ 5 ให้ผู้เดินทางเข้ามายังพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทุกช่องทางต้องสแกน QR Code "สวัสดีแม่ฮ่องสอน" หรือ บันทึกภาพ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ณ จุดตรวจคันที่กำหนด เพื่อให้สามารถติดตามได้ กรณีเดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ ให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม. ในหมู่บ้าน เพื่อติดตาม สอบสวน Timeline และประเมินความเสี่ยง

         นอกจากนี้ จะต้องฝ้าระวังตนเอง หลีกเลี้ยงการเข้าชุมชนและพื้นที่หนาแน่นเป็นเวลา 14 วัน กรณีบุคลากรของรัฐให้เขียน Tmeline รายงานผู้บังคับบัญชา และแจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อไป

         ข้อ 6 ให้งดการจัดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะ ที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง หรืองานรื่นเริงในช่วงเวลานี้ เว้นแต่เป็นการจัดพิธีการตามประเพณีนิยม และมีมาตรการป้องกันโรคที่เพียงพอเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ

         ข้อ 7 ขอความร่วมมือภาครัฐทุกหน่วยงานให้เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณาและดำเนินรูปแบบการปฏิบัติงานของบุคลากรในความรับผิดชอบในช่วงเวลานี้ โดยอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work from home) การสลับวันทำงาน หรือวิธีการอื่นใด ที่เหมาะสมเพื่อลดโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ไม่ได้ให้บริการแก่ประชาชน สำหรับหน่วยงานที่ให้บริการแก่ประชาชน ขอให้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการลงทะเบียน นัดหมาย จัดคิว ผู้รับบริการ เพื่อลดความแออัด

         ข้อ 8 ให้ผู้ติดเชื้อทุกราย ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย เข้ารับการตรวจรักษา แยกกัก กักกัน หรือ ดำเนินการอื่นใดตามแนวทางการควบคุมการระบาดของโรคที่กำหนดไว้ และปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค คำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือ ปกปิดข้อมูลประวัติความเสี่ยง (Timeline) อาจเข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโทษทั้งจำคุกและปรับ แล้วแต่กรณี

         ข้อ 9 ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) ปฏิบัติการช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งรัดเตรียมความพร้อม พัฒนาการปฏิบัติงาน ขับเคลื่อนภารกิจ กระจายและแจกจ่ายวัคซีน การลงทะเบียนรับวัคชื่น การฉีดวัคซีน รวมทั้งการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อมุ่งลดจำนวนผู้ป่วยและให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในระดับชุมชน อำเภอ และจังหวัดต่อไป

         ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่กินสีหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วแต่กรณี
ข้อมูล : 

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
รายการยอดนิยม