รัฐบาลเตรียมพร้อมรองรับการเดินทางช่วงปีใหม่ 2568 โดยกระทรวงคมนาคม ร่วมมือกับ 6 สายการบินแก้ไขปัญหาราคาตั๋วเครื่องบินแพงช่วงเทศกาลปีใหม่ จัดเพิ่มเที่ยวบินเพิ่มอีก 247 เที่ยวบิน เพิ่มที่นั่ง 73,388 ที่นั่ง พร้อมมอบหมาย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เข้าติดตามสถานการณ์ค่าโดยสาร
อย่างใกล้ชิด
ก.คมนาคม แก้ไขปัญหาราคาตั๋วเครื่องบินแพง มอบ กพท. ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
(18 พ.ย. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ราคาตั๋วเครื่องบินที่อาจจะมีราคาสูงในช่วงระหว่างวันที่ 27 - 28 ธันวาคม 2567 และวันที่ 1 - 2 ธันวาคม 2568 เนื่องด้วยมีการเดินทางโดยสารเครื่องบินเพิ่มมากขึ้น และจำนวนอากาศยานที่สายการบินทุกสายมีอยู่ ยังมีจำนวนน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 อยู่ที่ 76 ลำ หรือคิดเป็น 25% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการโดยสารด้วยเครื่องบินโดยตรง จึงมอบหมายให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เข้าติดตามสถานการณ์ค่าโดยสารอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงปลายปีและช่วงเทศกาล
ปีใหม่ พร้อมทั้งให้หารือร่วมกับสายการบินและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มเที่ยวบินให้เพียงพอกับปริมาณความต้องการในการเดินทาง และแก้ปัญหาราคาตั๋วแพงในช่วงวันหยุดยาว พร้อมกำชับให้ทุกฝ่ายเตรียมการเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้
ร่วมมือกับ 6 สายการบิน เพิ่มเที่ยวบิน 247 เที่ยว เพิ่มที่นั่ง 73,388 ที่นั่ง
ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากสายการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และสมาคมสายการบินประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินไทยเวียตเจ็ท จัดทำแผนเพื่อเพิ่มเที่ยวบิน รวมถึงปรับชนิด
อากาศยานให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อทำการบินทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ได้แก่ อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครพนม เชียงใหม่ เชียงราย น่าน กระบี่ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี และสมุย โดย สมาคมสายการบินประเทศไทย จะมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น 247 เที่ยวบิน และมีจำนวนที่นั่งเพิ่มถึง 48,244 ที่นั่ง ซึ่งจำนวนที่นั่งที่เพิ่มมานี้จะมีตั๋วราคาไม่สูงรวมอยู่ด้วย และจะใช้เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 67 ถึง 5 ม.ค. 68 โดยตั๋วเที่ยวบินพิเศษที่เพิ่มมานี้จะเข้าสู่ระบบการขายตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 67 ขณะที่บริษัทการบินไทย จะปรับชนิดอากาศยานเพื่อให้มีจำนวนที่นั่งมากขึ้นในบางวัน ในเส้นทาง ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ และเชียงราย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมไปจนถึงต้นเดือนมกราคม 2568 ซึ่งจะทำให้มีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 25,144 ที่นั่ง ดังนั้นจึงมีที่นั่งเพิ่มขึ้นทั้งหมด 73,388 ที่นั่ง
ให้ กพท. ประสานหน่วยงานด้านการบิน ขยายเวลาการให้บริการ ป้องกันผู้โดยสารตกค้าง
นอกจากนี้ กพท. ยังได้ประสานไปยังหน่วยงานด้านการบิน ทั้งสายการบิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) บริษัท การบินกรุงเทพ และบริษัทวิทยุการบิน (บวท.) เพื่อวางแผนจัดสรรตารางเวลาการบินของสนามบิน และขอขยายเวลาการให้บริการเพื่อให้สายการบินสามารถทำการบินได้มากขึ้นทั้งช่วงเช้าและช่วงดึก และขอให้สนามบินที่มีการจราจรคับคั่งผ่อนผันเวลาการเปิดให้บริการ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง โดยเฉพาะวันที่ 27 - 28 ธ.ค. 67 และวันที่ 1 - 2 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเดินทางสูงกว่าปกติ
ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนวางแผนการเดินทางในช่วงเทศกาล เนื่องจากจะมีความต้องการในการเดินทางสูงกว่าช่วงเวลาปกติ จึงทำให้ตั๋วโดยสารมีราคาสูงขึ้นตามความต้องการ รวมทั้งขอให้ตรวจสอบราคาค่าตั๋วโดยสารผ่านช่องต่าง ๆ ก่อนทำการซื้อ โดยเฉพาะการซื้อผ่านตัวแทนออนไลน์หรือ OTA (Online Travel Agent) ในเวลากระชั้นชิด ที่อาจพบราคาตั๋วที่สูงกว่าปกติ ดังนั้น จึงแนะนำให้ซื้อตั๋วโดยสารตรงกับเว็บไซต์ของสายการบิน เนื่องจากมีการควบคุมราคาเพดานค่าโดยสารจาก กพท. รวมถึงเมื่อเกิดเหตุเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือต้องการการชดเชยกรณีต่าง ๆ ผู้โดยสารจะสามารถประสานโดยตรงกับสายการบินได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดย กพท. จะตรวจสอบราคาค่าโดยสารในช่วงเทศกาลอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ค่าโดยสารเกินกว่าราคาเพดานที่กำหนด หากประชาชนพบเห็นการขายตั๋วเครื่องบินเกินเพดาน สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ https://portal.caat.or.th/complaint/ ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาสนามบิน เนื่องจากช่วงเทศกาลจะมีปริมาณการเดินทางหนาแน่น แม้ว่าผู้ให้บริการสนามบินจะได้เตรียมการไว้แล้ว แต่อาจจะมีจุดที่ติดขัดได้บางเวลา และขอให้ผู้โดยสารติดตามข่าวสารจากทางสายการบินศึกษาเรื่องเอกสารที่ต้องใช้ในการเดินทาง รวมถึงสิทธิของผู้โดยสารหากเที่ยวบินล่าช้า หรือถูกยกเลิก ได้จากจุดประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจและสามารถผ่านจุดตรวจต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น