นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก สาเหตุหนึ่งของปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดคือ อาหารและกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เนื่องในวันหัวใจโลก (World Heart Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 29 กันยายนของทุกปี
กรมอนามัยมีข้อแนะนำเพื่อช่วยให้หัวใจแข็งแรงคือ ควรกำหนดปริมาณและสัดส่วน อาหารในจานให้เหมาะสม ไม่ให้มากเกินไป ควรมีผัก 2 ส่วน ข้าวและเนื้อสัตว์อย่างละส่วน เลี่ยงหรือลดอาหารที่มีแคลอรีและมีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป หรืออาหารจานด่วน เพิ่มการกินผักและผลไม้
ในกลุ่มข้าวแป้ง ควรเลือกชนิดไม่ขัดสีหรือขัดสีน้อย เพราะเป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหารและสารอาหารอื่นๆ ที่มีบทบาทในการควบคุมน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และสุขภาพของหัวใจ ควรจำกัดปริมาณไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ เพื่อช่วยลด คอเลสเตอรอลในเลือด
จำกัดปริมาณน้ำตาลและโซเดียม ในหนึ่งวันไม่ควรกินน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา งดหรือลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชง และขนมหวาน การปรุงรสเค็มในอาหาร จำกัดเกลือ ไม่เกิน 1 ช้อนซาต่อวัน เทียบเท่ากับชีอิ๊วขาว หรือน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะทำให้ไขมันเลว หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีสูงขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความดันโลหิตและไขมันในเลือด
ควรออกกำลังกายระดับปานกลางอย่างสม่ำเสมอให้เป็นนิสัย ไม่ควรออกกำลังกายหนัก หรือหักโหมเกินไป แต่ควรทำให้ต่อเนื่อง ประมาณ 20 - 45 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะทำให้หลอดเลือดหัวใจแข็งแรงขึ้นและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือชะลอความรุนแรงโรคได้
ที่มา https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220929104750198