นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า จากสถิติระหว่างปี 2558–2564 พบว่ามีอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟเกิดขึ้น 437 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 162 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 434 ราย ยังไม่รวมผู้พิการจากอุบัติเหตุอีกจำนวนหลายราย จากตัวเลขดังกล่าว ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งงบประมาณภาครัฐและความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนที่ไม่อาจประเมินค่าได้ รัฐบาลจึงได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการลดอุบัติเหตุทางถนนและปัญหาการจราจรติดขัด ผ่านการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบราง โดยได้เร่งปรับปรุงโครงข่ายทางรถไฟในปัจจุบันให้มีความมั่นคง ปลอดภัยเพิ่มขึ้น พัฒนารถไฟทางคู่ ก่อสร้างรถไฟสายใหม่ รวมทั้งรถไฟความเร็วสูง ซึ่งได้มีการออกแบบแก้ไขปัญหาจุดตัดทางถนนและทางรถไฟเป็นจุดตัดต่างระดับ ทั้งสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ สะพานกลับรถข้ามทางรถไฟ ทางลอดใต้ทางรถไฟ สะพานรถไฟแบบยกระดับ รวมทั้งยกเลิกจุดตัดทางผ่านที่อยู่ใกล้เคียงกันไปรวมใช้ทางผ่านต่างระดับโดยการก่อสร้างถนนเลียบทางรถไฟ เพื่อสนับสนุนการขนส่งทางรางที่มีความปลอดภัยให้เป็นระบบขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้าหลักของประเทศ
กรมการขนส่งทางราง จึงได้ดำเนินโครงการศึกษา เพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน หรือ กปถ. ล่าสุดพบการยกเลิกการใช้จุดตัดทั่วประเทศแล้ว 218 แห่งและเป็นจุดตัดต่างระดับแล้ว 621 จุด คงเหลือจุดตัดเสมอระดับ 2,136 จุด ประกอบด้วย ทางผ่านที่มีเครื่องกั้นแล้ว 1,358 จุด ทางผ่านที่เป็นป้ายจราจร 152 จุด และทางลักผ่าน 626 จุด ซึ่งมีจุดตัดที่ต้องแก้ไขในระยะด่วน 35 จุด ระยะสั้น 74 จุด ระยะกลาง 308 จุด และระยะยาว 316 จุด โดยระยะเร่งด่วน 35 จุด กรมการขนส่งทางราง ออกแบบรายละเอียด พร้อมประมาณการราคา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปประกวดราคาและก่อสร้างเพื่อแก้ไข และสำหรับระยะสั้นจะขอความร่วมมือหน่วยงานเจ้าของถนนนำผลการศึกษาจากโครงการนี้และมาตรฐานจุดตัดทางถนนและรถไฟไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขจุดตัดต่อไป
ที่มา https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220620195115582