FinTech กับ SME : ทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงเงินทุนและระบบการชำระเงิน

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการจัดการระบบการเงิน การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ FinTech (Financial Technology) ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของ FinTech และบทบาทสำคัญที่มีต่อการพัฒนาธุรกิจ SME ในประเทศไทย

FinTech คืออะไร ?

FinTech หรือ Financial Technology คือการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับบริการทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในภาคการเงิน ตั้งแต่การชำระเงิน การโอนเงิน การระดมทุน การให้สินเชื่อ ไปจนถึงการวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงิน เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ลดการพึ่งพาตัวกลางแบบดั้งเดิม และเพิ่มความสะดวกรวดเร็วให้กับผู้ใช้บริการ

ความท้าทายของ SME ในการเข้าถึงบริการทางการเงิน

ธุรกิจ SME มักประสบปัญหาหลักๆ ดังนี้

  1. การเข้าถึงสินเชื่อ : สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมมักมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่เข้มงวด ต้องการหลักประกันสูง และมีกระบวนการพิจารณาที่ใช้เวลานาน
  2. ต้นทุนบริการทางการเงิน : ค่าธรรมเนียมธนาคารและบริการทางการเงินต่างๆ สร้างภาระให้กับธุรกิจขนาดเล็ก
  3. ขาดข้อมูลและความเชี่ยวชาญ : ผู้ประกอบการหลายรายขาดความรู้เรื่องการบริหารการเงินและการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินที่จำเป็น
  4. ระบบการชำระเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ : ระบบการรับชำระเงินแบบดั้งเดิมอาจมีความล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง

FinTech: ทางเลือกใหม่สำหรับ SME ไทย

1. การระดมทุนทางเลือก (Alternative Financing)

  • Peer-to-Peer Lending (P2P) : แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้กู้กับนักลงทุนรายย่อยโดยตรง ช่วยให้ SME สามารถกู้ยืมเงินได้โดยไม่ต้องผ่านธนาคาร เช่น DeepPocket, PeerPower
  • Crowdfunding : การระดมทุนจากมวลชนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งในรูปแบบการระดมทุนเพื่อแลกกับผลิตภัณฑ์ (Reward-based) หรือการระดมทุนเพื่อแลกกับหุ้น (Equity-based) เช่น Sinwattana, LivingInCamp
  • Supply Chain Financing : การใช้เทคโนโลยีในการจัดการสินเชื่อตลอดห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้ SME เข้าถึงเงินทุนหมุนเวียนได้เร็วขึ้น

2. ระบบการชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment Solutions)

  • QR Payment : ระบบการชำระเงินผ่าน QR Code ที่สะดวก รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ และเข้าถึงได้ง่าย เช่น พร้อมเพย์ (PromptPay), TrueMoney
  • E-Wallet : กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ธุรกิจรับและโอนเงินได้อย่างสะดวก เช่น Rabbit Line Pay, ShopeePay
  • Payment Gateway : ระบบที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถรับชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง เช่น 2C2P, Omise

3. การบริหารจัดการการเงิน (Financial Management)

  • แพลตฟอร์มบัญชีออนไลน์ : ช่วยให้ SME จัดการบัญชีและการเงินได้ง่ายขึ้น เช่น FlowAccount, PEAK Account
  • ระบบวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน : ใช้ AI และ Big Data ในการวิเคราะห์สถานะทางการเงินและให้คำแนะนำ
  • ระบบออกใบแจ้งหนี้อัตโนมัติ : ลดขั้นตอนและเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามการชำระเงิน

4. การให้สินเชื่อดิจิทัล (Digital Lending)

  • สินเชื่อออนไลน์ : การอนุมัติสินเชื่อผ่านระบบดิจิทัลที่รวดเร็วกว่า ใช้ข้อมูลหลากหลายในการประเมินความเสี่ยง เช่น MoneyTable, Finnomena
  • Buy Now Pay Later (BNPL) : บริการผ่อนชำระสินค้าโดยไม่มีดอกเบี้ย เช่น Atome, PayLater
  • พิจารณาสินเชื่อจากข้อมูลทางเลือก (Alternative Data Scoring) : ใช้ข้อมูลนอกเหนือจากประวัติทางการเงินแบบดั้งเดิม เช่น พฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือประวัติการซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือทางการเงิน

กรณีศึกษา : SME ไทยกับการใช้ FinTech

ร้านอาหารขนาดเล็กในกรุงเทพฯ

ร้านอาหารแห่งหนึ่งเผชิญปัญหาเงินทุนหมุนเวียนไม่เพียงพอ และต้องการปรับปรุงร้าน เจ้าของร้านตัดสินใจใช้บริการ P2P Lending เพื่อกู้เงินจำนวน 300,000 บาท โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ได้รับการอนุมัติภายใน 7 วัน ซึ่งเร็วกว่าการขอสินเชื่อจากธนาคารที่อาจใช้เวลาเป็นเดือน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ QR Payment ทำให้ลูกค้าชำระเงินได้สะดวก และลดปัญหาเงินสดขาดมือ

ผู้ผลิตเสื้อผ้าพื้นเมืองในเชียงใหม่

ธุรกิจเสื้อผ้าพื้นเมืองรายหนึ่งต้องการขยายตลาดสู่ออนไลน์และส่งออกต่างประเทศ แต่ประสบปัญหาเรื่องระบบการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างชาติ การใช้บริการ Payment Gateway ช่วยให้สามารถรับชำระเงินได้ทั้งบัตรเครดิตจากต่างประเทศและ E-Wallet ต่างๆ ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในระยะเวลา 6 เดือน

ประโยชน์ของ FinTech ต่อ SME

  1. ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ : ลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมการเงิน และเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงาน
  2. เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเงินทุน : มีทางเลือกในการระดมทุนที่หลากหลายมากขึ้น นอกเหนือจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม
  3. ขยายฐานลูกค้า : ระบบการชำระเงินที่หลากหลายช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น รวมถึงลูกค้าต่างประเทศ
  4. ข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ : ระบบการเงินดิจิทัลช่วยให้เก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ดีขึ้น
  5. ความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ : สามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้รวดเร็วขึ้น

ความท้าทายและข้อควรระวัง

แม้ FinTech จะมีประโยชน์มากมาย แต่ SME ควรตระหนักถึงความท้าทายต่าง ๆ ดังนี้

  1. ความปลอดภัยทางไซเบอร์ : การทำธุรกรรมออนไลน์มีความเสี่ยงด้านการโจรกรรมข้อมูลและการหลอกลวง
  2. กฎระเบียบและข้อบังคับ : บริการ FinTech บางประเภทอาจยังอยู่ในช่วงพัฒนากฎระเบียบ ผู้ใช้ควรศึกษาให้ดี
  3. การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว : อาจต้องปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ
  4. การพึ่งพาแพลตฟอร์ม : ธุรกิจอาจต้องพึ่งพาผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือค่าธรรมเนียมได้

แนวโน้มของ FinTech ในไทยและโอกาสสำหรับ SME

  1. การรวมตัวของบริการทางการเงิน (Financial Super App) : แอปพลิเคชันเดียวที่รวมบริการทางการเงินหลากหลายรูปแบบ
  2. การใช้ AI และ Big Data : การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงเพื่อให้บริการทางการเงินที่ตรงความต้องการมากขึ้น
  3. เงินดิจิทัลและบล็อกเชน : โอกาสในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลในการทำธุรกรรม
  4. Open Banking : การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินที่ดีขึ้น
  5. การสนับสนุนจากภาครัฐ : นโยบายส่งเสริม Digital Economy และ Thailand 4.0 ที่เอื้อต่อการพัฒนา FinTech

คำแนะนำสำหรับ SME ในการใช้ประโยชน์จาก FinTech

  1. เริ่มจากความต้องการทางธุรกิจ : ระบุปัญหาหรือความท้าทายทางการเงินที่ธุรกิจกำลังเผชิญ แล้วจึงหาโซลูชัน FinTech ที่เหมาะสม
  2. ศึกษาและเปรียบเทียบ : เปรียบเทียบบริการต่าง ๆ ทั้งด้านค่าใช้จ่าย ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ
  3. เริ่มต้นทีละขั้น : ไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทั้งระบบในคราวเดียว สามารถทดลองใช้บริการทีละส่วนและขยายการใช้งานเมื่อพร้อม
  4. สร้างความรู้ความเข้าใจ : พัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับทีมงานเพื่อใช้ประโยชน์จาก FinTech ได้อย่างเต็มที่
  5. ติดตามการเปลี่ยนแปลง : FinTech มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ควรติดตามแนวโน้มและนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ

บทสรุป

FinTech เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ SME ไทยสามารถเอาชนะอุปสรรคในการเข้าถึงบริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุน การชำระเงิน หรือการบริหารจัดการทางการเงิน การนำ FinTech มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดต้นทุน และสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการควรพิจารณาทั้งประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเลือกใช้บริการ FinTech ที่เหมาะสมกับความต้องการและขนาดของธุรกิจ

ในยุคดิจิทัล การปรับตัวและนำเทคโนโลยีมาใช้ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความอยู่รอดและการเติบโตของธุรกิจ SME ในประเทศไทย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar