เศรษฐกิจฐานราก (Grassroots Economy) เป็นรูปแบบเศรษฐกิจที่เน้นการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น โดยให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ การพึ่งพาตนเอง และการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับชุมชน มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีข้อดีหลายประการ ดังนี้:
เศรษฐกิจฐานรากช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ที่มั่นคงและพอเพียง โดยการสนับสนุนการผลิตสินค้าและบริการในชุมชน เช่น การเกษตรแบบยั่งยืน การทำหัตถกรรม หรือธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น สิ่งนี้ช่วยลดการพึ่งพางานจากเมืองใหญ่และลดปัญหาการย้ายถิ่นฐาน
การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทำให้ทรัพยากรและโอกาสถูกกระจายไปยังพื้นที่ชนบทหรือชุมชนห่างไกล ช่วยลดช่องว่างระหว่างคนในเมืองและชนบท และทำให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจมากขึ้น
เศรษฐกิจฐานรากช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน เนื่องจากประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาและตัดสินใจร่วมกัน ทั้งในเรื่องการจัดสรรทรัพยากร การสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า และการจัดการสิ่งแวดล้อม
เศรษฐกิจฐานรากช่วยให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากภายนอก โดยเน้นการผลิตที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง หรือพลังงานทดแทน
การพัฒนาบนฐานทรัพยากรท้องถิ่นช่วยลดการใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน เช่น การทำเกษตรอินทรีย์หรือการใช้พลังงานหมุนเวียน สิ่งนี้ช่วยรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เศรษฐกิจฐานรากมีบทบาทสำคัญในการรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการผลิตสินค้าที่สะท้อนเอกลักษณ์และภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม หรืออาหารพื้นบ้าน ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าและเอกลักษณ์ให้กับชุมชน
ด้วยการเน้นการเกษตรและการผลิตในท้องถิ่น เศรษฐกิจฐานรากช่วยลดการพึ่งพาอาหารนำเข้าและเพิ่มความมั่นคงทางอาหารในชุมชน ทำให้ชุมชนมีอาหารเพียงพอในยามวิกฤต
