การค้าชายแดน หมายถึง การส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักรไทยไปประเทศ ที่มีพรมแดนติดไทยและการนำเข้าสินค้าจากประเทศดังกล่าว เข้าราชอาณาจักรไทยที่ดำเนินการ ณ ด่านที่ตั้งขึ้นบริเวณเขตแดนทางบก บนทางอนุมัติ เพื่อประโยชน์ในการตรวจของที่ขนส่งโดยทางนั้น ๆ ซึ่งครอบคลุมการส่งออกสินค้าไปนอกราชอาณาจักรไทยต่อไปยังประเทศที่สาม และ การนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามผ่านพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดไทยตามความ ตกลงด้านขนส่งระหว่างประเทศ (กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน)
การค้าผ่านแดน หมายถึง การส่งสินค้าออกฯ ผ่านพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดไทยไปยังประเทศที่สาม และการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามผ่านพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดไทยตามความตกลงด้านขนส่งระหว่างประเทศ โดยปัจจุบันมีการจำแนกข้อมูลเฉพาะประเทศจีน(ตอนใต้) เวียดนาม และสิงคโปร์ เท่านั้น (กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน)
จุดผ่านแดน หมายถึง ด่านที่ตั้งขึ้น ณ ด่านพรมแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุม ของศุลกากร เพื่อให้การอำนวยความสะดวกต่อการค้าชายแดนเป็นไปอย่างถูกต้องรัดกุมและเหมาะสมกับสภาพในปัจจจุบัน (มาตรา 51 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560)
จุดผ่านแดนถาวร หมายถึง จุดผ่านแดนที่เปิดขึ้นตามความเห็นพ้องในระดับนโยบายของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อประโยชน์ต่อการค้าและการสัญจรของบุคคล ยานพาหนะ รวมทั้งการเดินทางเข้า-ออกของบุคคลจากประเทศที่สาม โดยเป็นไปตามระบบสากลที่เกี่ยวกับ การเดินทางและความตกลงในการสัญจรข้ามแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (สำนักงาน สภาความมั่นคงแห่งชาติ)
จุดผ่านแดนชั่วคราว หมายถึง จุดผ่านแดนที่เปิดเป็นการเฉพาะกิจ เพื่อเหตุฉุกเฉินจำเป็นเฉพาะคราวเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจการค้า และในบริเวณนั้นหรือบริเวณใกล้เคียงไม่มีจุดผ่านแดนประเภทอื่น หรือมีแต่ไม่สามารถใช้ หรือไม่เหมาะกับการใช้ด้วยเหตุผลต่าง ๆ (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ)
จุดผ่อนปรนการค้า หมายถึง จุดผ่านแดนที่เปิดขึ้นเพื่อการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่ชายแดนทั้งสองประเทศ(สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ)
จุดผ่อนปรนพิเศษ หมายถึง จุดผ่านแดนที่เปิดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดจุดผ่านแดนในจุดที่ยังไม่สามารถเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรได้ แต่เพื่อไม่ให้เสียโอกาสที่ประเทศจะได้รับ เพื่อประโยชน์ทางการค้า การท่องเที่ยว และการสัญจรของบุคคลและยานพาหนะ (สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ)
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 912,283 ล้านบาท ขยายตัว 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 534,316 ล้านบาท (+3.1%) และการนำเข้า 377,968 ล้านบาท (+4.3%) โดยไทยได้ดุลการค้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ทั้งสิ้น 156,348 ล้านบาท
การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 493,470 ล้านบาท (+2.6%) เป็นการส่งออก 305,452 ล้านบาท (+1.5%) การนำเข้า 188,019 ล้านบาท (-4.6%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 117,433 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว มีมูลค่าสูงสุด 150,697 ล้านบาท รองลงมา คือ มาเลเซีย 149,361 ล้านบาท เมียนมา 106,630 ล้านบาท และกัมพูชา 86,783 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 23,109 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 10,432 ล้านบาท และน้ำยางข้น 8,221 ล้านบาท
ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 418,813 ล้านบาท (+4.8%) เป็นการส่งออก 228,864 ล้านบาท (+5.4%) และการนำเข้า 189,949 ล้านบาท (+4.0%) โดยการค้าผ่านแดนไปจีน มีมูลค่าสูงที่สุด 244,175 ล้านบาท (+14.3%) รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนามมีมูลค่า 53,137 ล้านบาท (-10.3%) และ 36,269 ล้านบาท (-6.6%) ตามลำดับ ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในเดือนมกราคม - มิถุนายน 2567 ได้แก่ ทุเรียนสด 67,601 ล้านบาท ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 40,957 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 19,500 ล้านบาท
การค้าชายแดนและและผ่านแดนของไทยเริ่มต้นในครึ่งแรกของปี 2567 ในแดนบวกถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ได้มอบให้กรมการค้าต่างประเทศติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนอย่างใกล้ชิด อาทิ กรณี สปป.ลาวออกมาตรการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่สามารถผลิตได้ สำหรับด่านท้องถิ่นและด่านประเพณี แต่อนุญาตเฉพาะด่านสากลที่มีระบบการกักกันพืช – สัตว์เท่านั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวไม่กระทบต่อภาคธุรกิจของไทย และส่งผลให้สินค้าไทยที่นำเข้าถูกต้องตามด่านสากลได้ประโยชน์เพราะจะช่วยสกัดผู้นำเข้าที่ลักลอบขนสินค้าข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย รวมถึงกรณีสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมาที่ส่งผลให้เส้นทางการค้าหลักระหว่างแม่สอด – เมียวดีถูกทำลาย ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการรองรับในการเสนอเส้นทางขนส่งอื่นๆ ทดแทนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการค้า เช่น ด่านท่าเรือระนอง และด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้านการส่งเสริมการค้าชายแดน กรมการค้าต่างประเทศได้จัดงานมหกรรมการค้าชายแดนปี 2567 โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการค้าภายใน EXIM Bank SME Bank ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า ประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน เจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ และสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน โดยจัดไปแล้ว 2 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567 และจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 27 – 30 มิถุนายน 2567 และเตรียมจัดอีก 1 ครั้ง ณ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 15 – 18 สิงหาคม 2567 โดยในงานนี้ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมการส่งออกมาเลเซีย (MATRADE) และบริษัท GISB Holdings ประเทศมาเลเซีย มาร่วมออกงานด้วย
สถิติการค้าชายแดนและผ่านแดน เดือน ส.ค. 67 มีมูลค่า 154,987 ล้านบาท เพิ่ม 16.2% รวม 8 เดือนทะลุ 1.22 ล้านล้านบาทแล้ว เพิ่ม 7.1% โดยการค้าชายแดนค้าขายกับมาเลเซียสูงสุด ตามด้วย สปป.ลาว เมียนมา และกัมพูชา ส่วนการค้าผ่านแดน ค้าขายกับจีนสูงสุด ตามด้วยสิงคโปร์ และเวียดนาม
ตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ส.ค. 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 154,987 ล้านบาท เพิ่ม 16.2% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน เป็นการส่งออก 88,053 ล้านบาท เพิ่ม 18.4% และการนำเข้า 66,934 ล้านบาท เพิ่ม 13.4% โดยไทยได้ดุลการค้า 21,119 ล้านบาท และยอดรวมช่วง 8 เดือนปี 2567 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่าการค้ารวม 1,225,371 ล้านบาท เพิ่ม 7.1% เป็นการส่งออก 709,459 ล้านบาท เพิ่ม 6.2% และการนำเข้า 515,913 ล้านบาท เพิ่ม 8.4% โดยไทยได้ดุลการค้า 193,546 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแยกการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือน ส.ค. 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 83,699 ล้านบาท เพิ่ม 15.1% เป็นการส่งออก 48,635 ล้านบาท เพิ่ม 7.9% การนำเข้า 35,064 ล้านบาท เพิ่ม 27.0% ไทยได้ดุลการค้า 13,571 ล้านบาท โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซียมีมูลค่าสูงสุด 28,589 ล้านบาท เพิ่ม 20.7% รองลงมาคือ สปป.ลาว 23,143 ล้านบาท เพิ่ม 12.8% เมียนมา 17,530 ล้านบาท เพิ่ม 16.5% และกัมพูชา 14,436 ล้านบาท เพิ่ม 7.3% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น น้ำมันดีเซล 2,473 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,507 ล้านบาท และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ 1,482 ล้านบาท ส่วนยอดรวม 8 เดือน การค้าชายแดนมีมูลค่า 659,917 ล้านบาท เพิ่ม 5.4% เป็นการส่งออก 404,717 ล้านบาท เพิ่ม 3.4% การนำเข้า 255,200 ล้านบาท เพิ่ม 8.8% ไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 149,517 ล้านบาท
ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม เดือน ส.ค. 2567 มีมูลค่า 71,289 ล้านบาท เพิ่ม 17.5% เป็นการส่งออก 39,419 ล้านบาท เพิ่ม 34.6% และการนำเข้า 31,870 ล้านบาท เพิ่ม 1.5% โดยการค้าผ่านแดนไปจีนมีมูลค่าสูงที่สุด 41,786 ล้านบาท เพิ่ม 18.1% รองลงมาคือ สิงคโปร์ และเวียดนาม มีมูลค่า 9,154 ล้านบาท เพิ่ม 26.2% และ 6,541 ล้านบาท เพิ่ม 61.8% ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญ เช่น ทุเรียนสด 7,941 ล้านบาท ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ 6,459 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 4,091 ล้านบาท และยอดรวม 8 เดือน การค้าผ่านแดนมีมูลค่า 565,454 ล้านบาท เพิ่ม 9.1% เป็นการส่งออก 304,741 ล้านบาท เพิ่ม 10.1% การนำเข้า 260,713 ล้านบาท เพิ่ม 8.0% ไทยได้ดุลการค้า 44,028 ล้านบาท
ความต้องการสินค้าพลังงานจากไทยของประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องผ่านชายแดนเพิ่มขึ้น เช่น น้ำมันดีเซล เพิ่ม 3.4% น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ เพิ่ม 10.27% รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น นมผง เพิ่ม 24.8% และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพิ่ม 3.41% ส่วนการค้าผ่านแดน การส่งออกทุเรียนสดกลับมาขยายตัวอีกครั้ง เพิ่ม 4.6% ส่งผลให้ 8 เดือนของปี 2567 ไทยส่งออกทุเรียนสดผ่านแดนมูลค่า 85,281 ล้านบาท เพิ่ม 7.1% โดยตลาดหลักยังคงเป็นจีน 85,180 ล้านบาท เพิ่ม 7.0%
นอกจากนี้ ความต้องการสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางในตลาดโลกที่ยังคงสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้การส่งออกชายแดนและผ่านแดนสินค้ากลุ่มดังกล่าวในเดือน ส.ค. 2567 ขยายตัวสูง เช่น น้ำยางข้น เพิ่ม 25.5% ยางแท่ง TSNR เพิ่ม 74.5% ยางแผ่นรมควัน ชั้นที่ 3 เพิ่ม 71.3% และถุงมือยาง เพิ่ม 38.2% โดยตลาดส่งออกสำคัญสำหรับสินค้ากลุ่มดังกล่าว ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐฯ และอินเดีย
ในช่วงที่เหลือของปี 2567 การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าไทยของประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่น ๆ ยังมีอยู่สูง รวมถึงช่องทางการค้าผ่านทางชายแดนที่มีความสะดวกมากขึ้น โดยกรมจะเดินหน้าร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ในการส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดน และอำนวยความสะดวกและสนับสนุนผู้ประกอบการไทยต่อไป รวมทั้งเดินหน้าตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567-70 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2570
ที่มา : กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน, กรมการค้าต่างประเทศ