ความร่วมมือในการลดฝุ่น PM 2.5 ระหว่างภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากปัญหามลพิษทางอากาศไม่ได้จำกัดแค่ในระดับท้องถิ่น แต่สามารถแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและข้ามพรมแดนได้ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กมากสามารถลอยไปตามลมได้เป็นระยะทางไกล ทำให้หลายประเทศต้องร่วมมือกันในการลดมลพิษอย่างจริงจัง ดังนี้

1. การกำหนดนโยบายร่วมกันระหว่างประเทศ

- หลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย เช่น ไทย จีน เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ได้ร่วมมือกันในการพัฒนานโยบายและมาตรการในการจัดการฝุ่น PM 2.5 อย่างเป็นระบบ เช่น การควบคุมการเผาไหม้ในที่โล่ง และการลดการปล่อยก๊าซมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมและการขนส่ง

- ประเทศอาเซียนได้มีการร่วมมือภายใต้ "ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution" ซึ่งเป็นข้อตกลงในการลดมลพิษทางอากาศข้ามพรมแดน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการดับไฟป่า

2. การแบ่งปันข้อมูลคุณภาพอากาศ

- หลายประเทศในภูมิภาคได้จัดตั้งระบบตรวจวัดและแบ่งปันข้อมูลคุณภาพอากาศผ่านเครือข่าย เช่น การรายงานค่าฝุ่นละอองและมลพิษต่าง ๆ ผ่านดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ซึ่งทำให้ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ สามารถทราบสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์

- การแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยและพัฒนาทางเทคนิคระหว่างหน่วยงานวิจัยในภูมิภาค ทำให้สามารถนำแนวทางและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยจัดการกับปัญหา PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. การควบคุมไฟป่าและการเผาในที่โล่ง

- การเผาไหม้จากภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะการเผาเศษพืชผลหลังการเก็บเกี่ยวและไฟป่าที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง เป็นสาเหตุหลักของ PM 2.5 ในภูมิภาค หลายประเทศได้เริ่มมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่การเกษตรและการปราบปรามไฟป่า โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง

- ประเทศในภูมิภาคได้เริ่มสนับสนุนเทคนิคการเกษตรที่ไม่ใช้การเผา เช่น การใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวเศษวัสดุ การนำเศษพืชมาใช้เป็นปุ๋ย หรือการหมักเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลแทนการเผาไหม้

4. การสนับสนุนเทคโนโลยีสะอาดและพลังงานทางเลือก

- รัฐบาลหลายประเทศในเอเชียเริ่มส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสะอาด เพื่อลดการปล่อยมลพิษจากอุตสาหกรรมและการขนส่ง เช่น การใช้พลังงานทางเลือกจากแสงอาทิตย์ ลม และพลังงานชีวมวล เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลซึ่งเป็นสาเหตุของการปล่อยมลพิษ

- สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานรถไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดมลพิษจากการขนส่ง

5. การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน

- การจัดการปัญหา PM 2.5 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในการลดการเผาและลดการใช้เชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษ การจัดทำแคมเปญรณรงค์และสร้างความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 จะช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดปัญหา

- บางประเทศได้เริ่มโครงการที่สนับสนุนเกษตรกรให้ใช้วิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การให้เงินสนับสนุนหรือสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ที่ลดการใช้การเผาไหม้ในที่โล่ง

สรุป
การร่วมมือกันในระดับภูมิภาคจะช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการจัดการปัญหานี้ต้องอาศัยการทำงานร่วมกันจากทุกภาคส่วน ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค