แนวกันไฟ (Firebreaks) หมายถึง แนวกีดขวางตามธรรมชาติหรือที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อหยุดยั้งไฟป่า หรือเพื่อเป็นแนวตรวจการณ์ไฟ เป็นแนวตั้งรับในการดับไฟป่า โดยทั่วไปแนวนี้จะมีการกำจัดเชื้อเพลิงที่จะทำให้เกิดไฟป่าออกไปทั้งหมดจนถึงชั้นดินแท้ (Mineral soil) หรืออาจจะกำจัดเฉพาะเชื้อเพลิงที่ติดไฟง่าย เช่น ใบไม้ หญ้า ออกไปเท่านั้นก็ได้
การทำแนวกันไฟเป็นการตัดช่วงความต่อเนื่องของเชื้อเพลิง ป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่ที่จะคุ้มครอง หรือป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามออกมาจากพื้นที่ที่กำหนด มีความแตกต่างกับแนวดับไฟ ตรงที่แนวกันไฟจะทำเอาไว้ล่วงหน้าก่อนการเกิดไฟป่า ส่วนแนวดับไฟจะทำในขณะที่กำลังเกิดไฟไหม้ และทำขึ้นเพื่อการดับไฟทางอ้อม หรือเพื่อการดับไฟด้วยไฟ
การทำแนวกันไฟเป็นเครื่องมือที่ง่ายที่สุดในการที่ไม่ให้ “ไฟ” ที่ไหม้ในผืนป่าไม่ลุกลามขยายพื้นที่สร้างความเสียหาย และเป็นแนวตั้งรับไฟป่าได้ง่าย แนวกันไฟจะสกัดเพลิงที่เกิดขึ้นจากพื้นที่ด้านหนึ่งไม่ให้ลุกลามไปอีกฟากหนึ่ง จะช่วยลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นโดยเริ่มจากการสำรวจพื้นที่ และคาดคะเนว่าไฟจะมาจากทิศใด แล้วทำแนวกันไฟสกัดในทิศทางนั้น
เนื่องจากป่าในพื้นที่ทางเหนือ ส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง หรือป่าแบบผลัดใบ ทำให้มีเชื้อเพลิงคือใบไม้จำนวนมาก ทำให้ง่ายต่อการติดไฟ วิธีการทำแนวกันไฟแบบภูมิปัญญาดั้งเดิมคือการกำจัดเชื้อเพลิง เช่น เศษใบไม้แห้ง ใบหญ้า หรือทำความสะอาดพื้นที่ให้โล่งเตียนเป็นแนวยาวเพื่อกำจัดเชื้อเพลิง แนวกันไฟจะสกัดไม่ให้ไฟที่เกิดขึ้นจากพื้นที่ด้านหนึ่งลุกลามเข้าไปอีกฟากหนึ่ง ซึ่งสามารถลดความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งในระหว่างการกวาดใบไม้อาจมีการจุดไฟเผาหญ้าแห้งเป็นระยะๆเพื่อกำจัดวัชพืชไปด้วย
การทำแนวกันไฟมักจะทำช่วงต้นฤดูแล้วประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม หรือบางแห่งทำซ้ำอีกในช่วงเดือนเมษายนหากปีนั้นมีความแห้งแล้งมาก