นางสุภัตรา เลี่ยมรัตน์ รักษาราชการแทนประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวถึงการแก้ปัญหาความยากจนบนหลักการ “อยู่รอด ปลอดภัย พอเพียง ยั่งยืน” ว่า นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำหลักการอยู่รอด ปลอดภัย พอเพียง ยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ เดินหน้าสู่อนาคตท่ามกลางอุปสรรคที่เกิดขึ้นทั่วโลก
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับจากนี้จะเป็นช่วงการเริ่มต้นในการขับเคลื่อนประเทศ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตาม Roadmap หลังโควิด เร่งฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว การลงทุน การส่งออก เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน ด้วยการบริหารจัดการงบประมาณอย่างเหมาะสมในทุก ๆ ด้านเพื่อให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัย ทุกกลุ่ม อย่างครอบคลุม เท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบางซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด รวมทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนหลายแสนล้านบาทเพราะฉะนั้นการใช้จ่ายงบประมาณในปี 2565 ที่ยังเหลืออยู่นี้ และการใช้จ่ายงบประมาณปี 2566 ซึ่งได้ให้หลักการไปแล้วว่า จะทำอย่างไรให้นำพาประเทศ ผ่านปัญหาอุปสรรคและวิกฤติที่เกิดขึ้นไปได้ เพื่อนำไปสู่อนาคตได้อย่างไร โดยใช้หลักการที่ว่า ต้องทำให้อยู่รอดปลอดภัยพอเพียง และนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคต และต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังให้มากที่สุด ในขณะที่รายได้ก็ลดลง แม้ว่าการส่งออกจะดีขึ้นก็ตาม
ขณะที่การแก้ไขปัญหาเรื่องการเงินการคลังของประเทศ ยังมีเสถียรภาพที่เข้มแข็ง แม้ว่างบประมาณที่นำมาใช้จ่ายในการบริหารประเทศจะลดลงไปบ้าง ที่ผ่านมาได้ใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนกลุ่มเปราะบางเป็นจำนวนมาก จึงต้องย้อนกลับไปดูผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลาง และขนาดใหญ่ด้วยเช่นกันเนื่องจากเป็นผู้จัดงานเป็นไปตามห่วงโซ่ ไม่เช่นนั้นจะทำให้การจ้างงานลดลง รวมไปถึงมีการพัฒนาฝีมือแรงงานต่างๆ เพื่อนำไปสู่ประเทศผู้มีรายได้สูงในอนาคต
อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ จะมีการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากผู้ที่เดินทางเข้าประเทศมีอัตราการติดเชื้อน้อยมากและไทยเองก็ยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้อยู่ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนภายในประเทศทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เดินหน้าต่อไปได้.
ข้อมูล