นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธุรกิจตลาดอาคารสำนักงานในไทยเริ่มคึกคักมากขึ้น จากนโยบายสนับสนุนของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายเปิดรับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มุ่งสนับสนุนการใช้ศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติและใช้มาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่โดดเด่นของภูมิภาค ซึ่งส่งผลให้ตลาดสำนักงานคึกคัก ต่างชาติตั้งสำนักงานในไทยเพิ่ม พร้อมรับข่าวดี ไมโครซอฟท์ประกาศตั้ง Data Center แห่งแรกในไทย
สถานการณ์ของตลาดสำนักงานมีแนวโน้มที่จะมีลูกค้าจากต่างชาติมากขึ้น 
บริษัท IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแบบยืดหยุ่น (Flexible Workspace) ได้สำรวจพบว่า มีความต้องการตั้งสำนักงานในไทยเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยบริษัทข้ามชาติเล็งเห็นศักยภาพ และข้อได้เปรียบของไทยในการเป็นฐานตั้งสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคหลากหลายประการ 
สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน 
คุณภาพแรงงาน 
อัตราค่าแรงขั้นต่ำที่เหมาะสม 
ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ
ทักษะด้านดิจิทัลของบุคลากรไทย 
ค่าครองชีพที่ไม่สูงมาก 
องค์ประกอบเหล่านี้ ได้สร้างความคึกคักให้กับธุรกิจด้านการให้เช่าตลาดอาคารสำนักงานในไทยเป็นอย่างมาก 
เกิดเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้เช่า 
ครอบคลุมถึงการจัดทำสัญญาเช่าเป็นระยะสั้นมากขึ้น 
การพัฒนาออกแบบสำนักงานที่ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานมากขึ้น 
การขยายฐานไปยังกลุ่มผู้เช่าใหม่ผ่านการนำเสนอการให้เช่าพื้นที่แบบ Co-working Space
หลายธุรกิจสนใจลงทุนเปิดสำนักงานในประเทศไทย 
การประกาศจัดตั้ง Data Center ระดับภูมิภาคแห่งแรกในประเทศไทยของไมโครซอฟท์ พร้อมร่วมพัฒนาศักยภาพ AI ร่วมกับไทย และภูมิภาค ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญของไทย ต่อยอดถึงให้กับธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องและเห็นโอกาสในการเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการตั้งสำนักงาน
ก่อนหน้านี้ บอร์ด BOI ได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุน Data Center ในไทย
บริษัท เน็กซ์ ดีซี จำกัด ผู้ให้บริการ Data Center รายใหญ่ของออสเตรเลีย 
บริษัท ซีทีอาร์แอลเอส ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการ Data Center รายใหญ่จากอินเดีย
ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานต่างชาติที่สนใจมาตั้งสำนักงานในไทยเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น เข้าใจความต้องการ และพัฒนาแนวทางที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตในไทยและภูมิภาคต่อไป 
ปัจจุบันรัฐบาลมีมาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติหลายประการ อาทิ มาตรการวีซ่าพำนักระยะยาว (Long-term Resident Visa) การปรับปรุงศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน (One Stop Service) มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการผลิตและกิจการ International Business Center (IBC)
BOI เผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในไตรมาสแรก ปี 2567 อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจำนวน 785 โครงการ เงินลงทุนรวม 254,928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ประโยชน์ของโครงการเหล่านี้ 
คาดว่าจะทำให้มูลค่าส่งออกของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 6 แสนล้านบาท/ปี 
มีการใช้วัตถุดิบในประเทศประมาณ 2.4 แสนล้านบาท/ปี คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของมูลค่าวัตถุดิบทั้งหมด 
เกิดการจ้างงานคนไทยประมาณ 50,000 ตำแหน่ง