วันนี้ (19 เมษายน 2567) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รับฟังบรรยายสรุปโครงการแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต บรรยายสรุป
การแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน 
ปรับปรุงประเมินผลระบบไฟจราจรอัจฉริยะ
กำหนดจุดจอดรถบนทางหลวงเพื่อไม่ให้จอดกีดขวางการจราจร 
กำหนดจุดกลับรถให้เกิดความคล่องตัวด้านการจราจรมากยิ่งขึ้น 
การแก้ปัญหาระยะยาว 
รองรับการดำเนินโครงการ มีการคัดเลือกบริษัทรับจ้างที่มีศักยภาพ กำหนดข้อเสนอ เงื่อนไขเพิ่มเติมประกอบการพิจารณา เช่น กำหนดค่าปรับที่สูง รวมถึงพิจารณาผลกระทบต่อทุก ๆ มิติ เป็นต้น
จ.ภูเก็ต ทำแผนโครงการเชื่อมโยงคมนาคมขนส่ง ทางถนน ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ
โครงการทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ 
โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง 
โครงการขยาย 4 ช่องจราจร ทล. 4027 
โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ 4 ช่องจราจร 
โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล. 4027 (ทางเลี่ยงเมือง) ตอนบ้านเมืองใหม่ - แยกเข้าสนามบิน ระหว่าง กม.18+850 - กม.20+800 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
โครงการศึกษาความเหมาะสมฯ ทางหลวงแนวใหม่ เชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยว อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจสังคมของพื้นที่ ที่ กม.34 + 680 (ทล. 402) วงเงินค่าก่อสร้างประมาณ 2,380 ล้านบาท โดยแผนดำเนินการ ปี 2567 - 2569
พัฒนายกระดับเกาะสมุย - ภูเก็ต เป็นเกาะระดับโลก
นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายตอนหนึ่งว่า เป็นระยะเวลา 6 เดือนแล้ว จากที่ได้ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่เกาะสมุย ทราบดีถึงศักยภาพ รัฐบาลพยายามที่จะยกระดับของทั้ง เกาะสมุย และภูเก็ต ให้เป็นเกาะระดับโลก พร้อมให้ทำแผนที่มีความเชื่อมโยงกับเกาะต่าง ๆ เพื่อทำให้เศรษฐกิจพื้นฐานของภาคใต้ดีขึ้น และจากการบูรณาการ ทั้งภาครัฐส่วนกลาง และส่วนท้องถิ่น ที่ทำงานกันอย่างจริงจังจนเห็นแผนงานเป็นรูปธรรม ตามความคาดหวังของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า มีความมั่งคั่งแล้ว จะต้องมีความมั่นคง จะต้องแก้ไขปัญหาความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มาเฟีย ปัญหายาเสพติด เป็นต้น ขอให้สบายใจว่ารัฐบาลจะนำความเจริญเข้ามาในพื้นที่ ย้ำรัฐบาลไม่ได้มองถึงเรื่องความเจริญเพียงอย่างเดียว แต่ใส่ใจกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยจะยกระดับจังหวัดภูเก็ตให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” นายกฯ กล่าว
กำชับเข้มงวดการลักลอบยางพาราเถื่อน - มาเฟีย 
    นายกฯ กล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ได้รับตำแหน่ง การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเป็นนโยบายสำคัญระดับต้น ๆ ดังนั้น การแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ก็ต้องเข้มงวด เช่น การลักลอบยางพาราตามแนวชายแดน ขอให้ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการจัดการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบ หากช่วยกันสกัดได้จะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการป้องกันการกระทำความผิดของคนต่างชาติ พบข้อมูลว่ามีเครือข่ายภาคธุรกิจที่มาทำธุรกิจเหนือกฎหมาย อย่าให้มาเฟียต่างชาติเข้ามาทำลายการลงทุน และอย่าให้กระทบต่อความเชื่อมั่น กระทบต่อการท่องเที่ยว
“การประกอบธุรกิจโรงแรมที่ผิดกฎหมาย ขอให้เคร่งครัดเรื่องการออกใบอนุญาตในการประกอบการ ดูแลไม่ให้เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว อย่าให้น้ำผึ้งหยดเดียวกลายเป็นปัญหา สำหรับเรื่องของการปล่อยน้ำเสียและขยะให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ต้องช่วยกันทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองน่าอยู่ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มาเยือน”นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย