จับตาสถานการณ์สู้รบอิหร่าน - อิสราเอล

อิหร่าน เปิดฉากโจมตี อิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธจำนวนมาก
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์อิสราเอล-อิหร่าน และแจ้งเตือนคนไทยให้พิจารณางดเว้นการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว นั้น เนื่องจากได้รับรายงานจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่ามีการโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธจำนวนมากในหลายทิศทาง โดยทางการอิสราเอลได้ประกาศเตรียมความพร้อมในการตั้งรับและสกัดการโจมตีดังกล่าว และได้ออกแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยตามประกาศของรัฐบาลอิสราเอล ขอให้ทุกคนระมัดระวังตนเอง และปฏิบัติตามคำสั่งทางการท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด หากได้ยินเสียงไซเรน ขอให้รีบเข้าห้องหลบภัยในทันที ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 13 เมษายน เวลา 23.00 น. จนถึงวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2567 เวลา 23.00 น. ดังนี้
1.    ห้ามมีการชุมนุมมากกว่า 1,000 คน ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และปิดสถาบันการศึกษา
2.    ห้ามชุมนุมมากกว่า 30 คน ในพื้นที่สู้รบ
3.    สถานที่ทำงานเปิดได้เฉพาะที่มีห้องหลบภัย
4.    รัฐบาลได้ประกาศปิดน่านฟ้า และงดเที่ยวบินทั้งหมด ตั้งแต่ 00.03 น. ของวันที่ 14 เมษายน เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ขอให้ติดตามประกาศของของแต่ละท้องถิ่น 

ไทม์ไลน์ของเหตุการณ์สงครามอิหร่าน-อิสราเอล:
•    1 เมษายน 67 : อิสราเอลโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรีย คร่าชีวิตผู้คนไป 16 ราย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูง
•    12 เมษายน 67 : 
-    อิหร่านบุกโจมตีและยึดเรือคอนเทนเนอร์ที่เชื่อมโยงกับอิสราเอลได้สำเร็จ
-    อิสราเอลปิดโรงเรียนทั่วประเทศ เตือนทหารอย่างเต็มที่ท่ามกลางภัยคุกคามจากอิหร่าน
•    13 เมษายน 2567 :
-    อิสราเอลและอิหร่านปิดน่านฟ้าทั้งหมดอย่างเป็นทางการ
-    อิหร่านเปิดการโจมตีอิสราเอลอย่างเป็นทางการโดยใช้โดรนและขีปนาวุธเป็นร้อย
-    เยเมนใช้โดรนโจมตีอิสราเอล สื่ออิหร่านรายงาน
-    จอร์แดน ประกาศจะสกัดกั้นโดรนและขีปนาวุธทั้งหมดที่ผ่านน่านฟ้าของตนไปยังอิสราเอล
-    คาตาอิบฮิซบอลเลาะห์แห่งอิรัก ประกาศเริ่มปฏิบัติการต่อต้านอิสราเอล
-    ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า "ระบอบไซออนิสต์ผู้ประสงค์ร้ายจะถูกลงโทษ"
-    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เชื่อว่าอิหร่านเตรียมปล่อยโดรนและขีปนาวุธมากถึง 500 ลำ จากอิหร่าน อิรัก ซีเรีย เลบานอน และเยเมน
-    เครื่องบินรบของอเมริกาและอังกฤษกำลังสกัดกั้นโดรนของอิหร่านที่ยิงใส่อิสราเอล
-    มีรายงานว่ามีการยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกจากทางใต้ของเลบานอนไปยังอิสราเอล

นายกฯ ห่วงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง แนะคนไทยติดตามใกล้ชิด
(12 เม.ย. 67)  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความใน X ห่วงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง เตือนให้คนไทยในพื้นที่ดังกล่าวตื่นตัว “ผมติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดอยู่ครับ และด้วยความกังวลใจ โดยเฉพาะความตึงเครียดที่กำลังเพิ่มมากขึ้นระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ผมขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของสถานทูตของเราในภูมิภาคอย่างใกล้ชิดครับ เพื่อเตรียม

ความพร้อมรับมือกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน” 
    ขณะที่ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่มีเหตุความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศมีความเป็นห่วงพี่น้องคนไทยในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรง นายกฯ จึงได้สั่งการเพิ่มเติม และประกาศเตือนประชาชน ดังนี้
•    สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตในภูมิภาคติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสถานเอกอัครราชทูต 
ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้จัดทำประกาศแจ้งเตือนคนไทยให้เตรียมความพร้อม รวมถึงแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินด้วย
•    ขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัว และติดตามการประกาศและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ของสถานทูตไทยในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด  และขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีฉุกเฉินพี่น้องคนไทยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศต่าง ๆ ทุกแห่ง

กต. ขอคนไทยในอิสราเอลและพื้นที่ใกล้เคียงเฝ้าระวังสถานการณ์
(14 เม.ย. 67) ปัจจุบัน มีคนไทยพำนักอยู่ในอิสราเอลประมาณ 28,000 คน และในอิหร่านประมาณ 300 คน โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ได้ติดต่อกับชุมชนไทย เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับพัฒนาการของสถานการณ์เป็นระยะเสมอมา โดยขณะนี้ ยังไม่มีรายงานคนไทยในอิสราเอลและอิหร่านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจเพื่อมิให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่กรณีจำเป็น โดยขอให้คนไทยทั้งในอิสราเอลและพื้นที่ใกล้เคียงเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข่าวสารของทางการท้องถิ่น และจากสถานเอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

สอท. ให้ประชาชนจัดกระเป๋าเตรียมพร้อมในสถานกาณ์ฉุกเฉิน
    เนื่องจากสถานการณ์สงครามในอิสราเอลยังมีความไม่แน่นอนสูง สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ขอให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอลจัดกระเป๋าเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีสิ่งของจำเป็น ดังนี้
1.    อาหารแห้ง/อาหารกระป๋อง และน้ำดื่ม (อย่างน้อยสำหรับ 3 วัน)
2.    ไฟฉายและถ่าน
3.    แบตเตอรี่สำรอง (Power bank)
4.    เอกสารประจำตัวต่าง ๆ เช่น Passport
5.    เสื้อผ้า 
6.    ยารักษาประจำตัวพร้อมใบสั่งยา
7.    ชุดปฐมพยาบาล
8.    เงินสด
9.    อาหารเฉพาะของเด็ก/ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยงในบ้าน (หากมี)

เปิดหมายเลขฉุกเฉิน – กรณีคนไทยต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน 
กระทรวงการต่างประเทศขอให้คนไทยทั้งในอิสราเอลและพื้นที่ใกล้เคียงเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข่าวสารของทางการท้องถิ่น และจากสถานการณ์เอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ 
กรุงเทลอาวีฟ ในกรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ ดังนี้
•    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ 
-    หมายเลขฉุกเฉิน (+972) 546 368 150 , (+972) 503 673 195
-    อีเมล : thaiembassy.tav@mfa.go.th
-    www.facebook.com/thaiembassytelaviv (ทุกเรื่องเมืองยิว)
•    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะรานะ
-    หมายเลขฉุกเฉิน (+98) 912 500 7933, (+98) 912 159 8699
-    อีเมล : thaiembassy.tav@mfa.go.th
-    www.facebook.com/Thailandinlran
•    Call center กรมการกงสุล หมายเลข 02 572 8442 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar