ประชาชนในมาเลเซีย สมัครใจ จองฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา 268,000 โดส เต็มภายใน 3 ชั่วโมง รัฐบาลเตรียมขยายพื้นที่ฉีดเพิ่มในสัปดาห์หน้า

 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ทางการมาเลเซีย เดินหน้าฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาให้แก่ประชาชน โดยเปิดให้ประชาชนผู้สมัครใจลงทะเบียนจองสิทธิ์ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่าน ซึ่งปรากฏว่ายอดจองฉีดวัคซีน 268,000 โดสเต็มหมดในเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง 

        ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 เมษายน 64 สำนักข่าว แชนแนล นิวส์ เอเชีย ได้รายงานว่า นายไครี จามาลุดดิน รมต.วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้แถลงข่าวร่วมกับ ดร.อดัม บาบา รมต.สาธารณสุขมาเลเซีย ระบุผู้เชี่ยวชาญพบว่าวัคซีน แอสตราเซเนกา มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย มากกว่าความเสี่ยงด้านลิ่มเลือด ที่มีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 4 เคสต่อ 1 ล้านโดสเท่านั้น

        อย่างไรก็ตามรัฐบาลมาเลเซียตระหนักว่า “ข้อเท็จจริงและวิทยาศาสตร์ไม่สามารถเอาชนะความกังวลของประชาชนและข่าวปลอมที่แพร่กระจายไปได้” จึงตกลงหาทางเดินหน้าการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา และจัดการกับความกังวลของประชาชนไปพร้อม ๆ กัน โดยจะไม่ใช้วัคซีนแอสตราเซเนกาในโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 แห่งชาติมาเลเซีย แต่จะให้ประชาชนที่สมัครใจฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา มาลงทะเบียนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนพิเศษ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์และรัฐสลังงอร์ แทนที่จะทิ้งวัคซีน 268,000 โดสไป

"เดินหน้าฉีดแอสตราเซเนกาควบคู่ไปกับสร้างความมั่นใจให้ประชาชน"

ที่ามา https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210508115608582

        รัฐบาลมาเลเซียจึงดำเนินโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 คู่ขนาน สำหรับประชาชนที่เลือกฉีดวัคซีน แอสตราเซเนกา หลังทางการมาเลเซียหยุดฉีดวัคซีนดังกล่าวไปสักระยะหนึ่ง เนื่องจากประชาชนกลัวผลข้างเคียง หลังมีรายงานถึงความเป็นไปได้ที่การฉีดวัคซีน เกี่ยวโยงกับอาการของภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จนบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน

        หลังจากประชาชนให้ความสนใจเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นอย่างมากในรอบแรก โดยมีผู้จองฉีดวัคซีน 268,000 โดสเต็มหมดในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง ในสัปดาห์หน้าทางการมาเลเซียจะได้ประกาศสถานที่ฉีดวัคซีนเพิ่มเติมโดยจะขยายไปยังพื้นที่นอกเขตกรุงกัวลาลัมเปอร์และรัฐสลังงอร์ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้สูงอายุเข้ารับการฉีดวัคซีนมากกว่าในรอบแรก

        ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนบอกว่า พวกเขารู้สึกคลายกังวลที่ได้ฉีดวัคซีนโดสแรก ในขณะที่มาเลเซียเผชิญการระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง และมีรายงานว่าพบผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียในมาเลเซีย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอาจเป็นการกลายพันธุ์และแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น

        ขณะที่หลายสำนักข่าว เช่น รอยเตอร์ส, สเตรท ไทม์ส และมาเลย์เมล์ได้ยืนยันว่า มาเลเซียไม่ได้ยกเลิกการใช้วัคซีน แอสตราเซเนกา แต่จะใช้เป็นวัคซีนทางเลือกให้แก่ประชาชนที่สมัครใจ ขยายพื้นที่การฉีด ร่วมกับวัคซีนต้านโควิด-19 อีก 2 ชนิด คือ ไฟเซอร์-ไบออนเทค และ ซิโนแวคอย่างทั่วถึงตามแผนการฉีดวัคซีนต่อไป

 

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar