ยืนยันจังหวัดนครราชสีมาและพิจิตร ปริมาณน้ำยังมีเพียงพออุปโภคบริโภค

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนรายงานสถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดนครราชสีมาและพิจิตร โดยจังหวัดนครราชสีมาแหล่งน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปาในพื้นที่หมู่บ้านโนนกราด อำเภอลำคอหงส์และอำเภอโนนสูง มีสภาพแห้งขอดส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 40 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่จังหวัดพิจิตร ลุ่มแม่น้ำยมแห้งขอดส่งผลให้ฝายแม้วในพื้นที่วังลูกช้าง ตำบลสามง่าม อำเภอสามง่าม ไม่สามารถกักเก็บน้ำและแห้งลงตามสภาพแม่น้ำยมทำให้ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวขาดแคลนน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตรนั้น 

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานทั้ง 2 จังหวัด ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จในพื้นที่แล้ว พบว่าระบบประปาในพื้นที่ยังสามารถให้บริการน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนได้อย่างเพียงพอ รวมถึงปริมาณน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาเพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้งนี้ สำหรับแหล่งน้ำธรรมชาติตามภาพข่าวเป็นสระน้ำประจำหมู่บ้าน (สระหนองกุ่ม) ซึ่งอำเภอโนนสูงได้รับการสนับสนุนงบประมาณโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พึ่งดำเนินการขุดลอกแล้วเสร็จไม่นานโดยจะใช้เก็บกักน้ำฝนในช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ ส่วนจังหวัดพิจิตรพื้นที่ดังกล่าวมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค แต่ไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตรได้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนไม่เพียงพอ จึงประสานอำเภอติดตามตรวจสอบสถานการณ์ภัยแล้งตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว ทั้งนี้ยังขอความร่วมมือเกษตรกรให้ลดพื้นที่ทำการเกษตรในช่วงหน้าแล้งเนื่องจากมีปริมาณน้ำต้นทุนน้อยไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตรได้ โดยเฉพาะอำเภอสามง่ามพบว่ายังไม่มีพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งแต่อย่างใด 

เกษตรกรยังสามารถพึ่งพาตนเอง โดยการสูบน้ำจากบ่อบาดาลของในพื้นที่ของตนเองและสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในการหล่อเลี้ยงต้นข้าว พืชผักและผลไม้ได้ อย่างไรก็ตาม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้บูรณาการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง โดยติดตามตรวจสอบปริมาณน้ำต้นทุนและสำรวจความต้องการใช้น้ำในแต่ละพื้นที่ พร้อมจัดเตรียมทรัพยากรให้พร้อมรับมือภัยแล้ง ทั้งกำลังคน วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย รถบรรทุกน้ำและเครื่องสูบน้ำ รวมถึงจัดสรรน้ำตามลำดับความสำคัญเน้นน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลัก อีกทั้งสร้างการรับรู้สถานการณ์น้ำมาตรการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ การรณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด 

ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงช่องทาง อื่นๆ เช่น ศูนย์ดำรงธรรมทุกระดับในพื้นที่

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210304100424142


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar