พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ได้รับข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพ อาศัยช่องว่างของโครงการเราชนะ เข้ามาหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดกฎหมายและเงื่อนไขของโครงการฯ ด้วยการแอบอ้างประกาศซื้อขายสิทธิ์ หรือรับแลกเปลี่ยนเงินที่ได้รับในแอปพลิเคชันเป็นเงินสด ซึ่งเงื่อนไขของโครงการฯ ได้ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่สามารถใช้สิทธิ์ของผู้อื่นได้ และเงินที่ได้รับจากโครงการไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ 

นอกจากนี้ ยังอาจมีมิจฉาชีพบางคนทำการปลอมเว็ปไซต์ โดยใช้ชื่อเว็บไซต์ที่คล้ายกับเว็บไซต์ของรัฐบาลที่ให้ประชาชนไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต และเมื่อประชาชนมาลงทะเบียนในเว็บไซต์ปลอมแล้ว ก็จะนำข้อมูลส่วนตัวต่างๆ ของเหยื่อไปใช้  จนเหยื่อหรือผู้อื่นได้รับความเสียหาย จึงเตือนไปยังผู้ที่มีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการกระทำผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ก็อาจจะมีความผิดตาม  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังแนะแนวทางป้องกันการถูกหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าว โดยขอให้ประชาชนศึกษาเงื่อนไขของโครงการให้ชัดเจนก่อนลงทะเบียน, อย่าหลงเชื่อคนที่มาแอบอ้าง หรือรับแลกเปลี่ยนสิ่งที่ขัดกับเงื่อนไขของโครงการฯ, ควรเข้าหน้าเว็บไซต์จากการพิมพ์ URL เท่านั้น ไม่เข้าจากการคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือ สแกน QR code เพราะอาจถูกส่งไปยังเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาหลอกลวงได้ อีกทั้ง อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาผ่านช่องทางต่างๆ ที่ไม่มีการใช้จ่ายซื้อสินค้า หรือรับบริการจริงอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อ ที่สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิดโดยไม่รู้ตัว

ที่มา  https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG210223144322114