ชวนคนไทยทุกกลุ่มวัย หันมาใส่ใจการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและสม่ำเสมอ แนะ 10 วิธีช่วยการนอนหลับ เนื่องในวันนอนหลับโลก

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า วันนอนหลับโลก World Sleep Day ปี 2566 ตรงกับวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม ปีนี้มีคำขวัญคือ “การนอนเป็นสิ่งสำคัญ นอนดีทุกวันสุขภาพแข็งแรง" ซึ่งการนอนหลับที่เพียงพอและสม่ำเสมอ เป็นองค์ประกอบสำคัญของการรักษาสุขภาพ ตลอดทุกช่วงวัยตั้งแต่ทารกในครรภ์มารดา เด็กปฐมวัย และเด็กวัยเรียน การนอนหลับมีบทบาทสำคัญกับการเจริญเติบโตพัฒนาการของร่างกายและสมอง ในวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยผู้สูงอายุ มีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันสุขภาพและโรคประจำตัว การนอนหลับไม่เพียงพอ หรือโรคของการนอนหลับเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ

โรคประจำตัว ภาวะภูมิต้านทานต่ำ และเพิ่มความโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน กรมอนามัย แนะหลัก 10 ประการ เพื่อสุขอนามัยการนอนหลับที่ดีคือ เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน รับแสงแดดในตอนเช้าอย่างน้อย 30 นาที ไม่นอนในเวลากลางวัน ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ไม่ควรนอนเกิน 30 นาที ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ 2 ชม.ก่อนนอนไม่ควรออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและอาหารมื้อหนักอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนนอน นอนเตียงนอนที่สบาย ผ่อนคลายเพื่อลดความวิตกกังวล ควรใช้ห้องนอนเพื่อการนอนเท่านั้น ไม่เล่นโทรศัพท์มือถือ หรือกินอาหารบนเตียงนอน และหากนอนไม่หลับภายใน 30 นาที ควรลุกไปทำกิจกรรมอื่นๆ แล้วกลับมานอนใหม่อีกครั้ง

สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มวัยที่ควรนอน วันละ 7-9 ชั่วโมง ร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคอ้วน โรคซึมเศร้า โรคสมองเสื่อม

ส่วนระยะเวลาในการนอนที่เหมาะสมในวัยอื่นๆ ได้แก่ ทารกแรกเกิด อายุ 0-3 เดือน ควรนอรวันละ 14-17 ชั่วโมง เด็กทารก อายุ 4-11 เดือน วันละ 12-16 ชั่วโมง เด็กหัดเดิน อายุ 1-2 ปี วันละ 11-14 ชั่วโมง เด็กก่อนวัยเรียน อายุ3-4 ปี วันละ 10-13 ชั่วโมง เด็กวัยเรียน อายุ 6-13 ปี วันละ 9-11 ชั่วโมง วัยรุ่น อายุ 14-17 ปี วันละ 8-10 ชั่วโมง วัยผู้ใหญ่ วันละ 7-9 ชั่วโมง และสตรีมีครรภ์ วันละ 7-9 ชั่วโมง

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230310095301818


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar