หน่วยงานภาครัฐและเอกชน บูรณาการความร่วมมือเดินหน้าขยายตลาดส่งออกไป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เป็นผลสำเร็จ

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการเพิ่มตลาดระหว่างประเทศสร้างโอกาสให้เศรษฐกิจไทยและกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชน บูรณาการความร่วมมือเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้หารือเพื่อขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยกับภาครัฐและภาคเอกชนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE)

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี รับทราบผลการดำเนินงานดังกล่าว พร้อมทั้งขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับ UAE จนประสบความสำเร็จ เห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ขยายตลาดส่งออกสินค้าไทย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศจำนวนมหาศาล และเป็นโอกาสขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐประเทศอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) อื่นๆ ต่อไป

ทั้งนี้ในการเดินหน้าขยายความร่วมมือดังกล่าว ภาคเอกชนไทยกับ UAE สามารถลงนามสัญญาซื้อขายจริงรวมมูลค่ากว่า 1,330 ล้านบาท โดยเป็นการจับคู่เซ็นสัญญา 5 คู่ ในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร สุขภัณฑ์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเมลามีน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการลงนามเพื่อจัดตั้งสภาธุรกิจไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับ UAE ในอนาคต สร้างเม็ดเงินให้ประเทศ เพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท สำหรับปี 2566 และเป็นโอกาสขยายตลาดส่งออกไทยไปยังประเทศในตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับมากขึ้น ผ่านความร่วมมือกับ UAE ในการเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าการลงทุนไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การขยายตลาดส่งออกไทยอย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสรุปผลการเจรจา FTA ที่ค้างอยู่ให้สำเร็จ และเปิดการเจรจา FTA กับคู่ค้าใหม่ที่มีศักยภาพต่อไป

ที่มา : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230222101958398

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar