วันที่ 9 กันยายน 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลรับทราบและยินดีที่ผลสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2565 ของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO Investor Confidence Index) พบว่า "ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 124.42 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.3% จากเดือนก่อนหน้า ขึ้นมาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” โดยความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับเพิ่มมากขึ้นถึง 40.0% อยู่ที่ระดับ 140.00 ซึ่งความเชื่อมั่นของนักลงทุนนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นตัวชี้วัดพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยที่มีความเข้มแข็งมากขึ้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ จากผลสำรวจพบว่าปัจจัยหนุนมาจากแนวโน้มการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED รวมถึงการประกาศตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 4.5% สะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง  และแรงหนุนจาก การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว โดยจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-20 พฤศจิกายน มีจำนวน 8,822,950 คน โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเฉลี่ยวันละ 60,000 คน และแตะ 10 ล้านคนในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการไปเป็นประธานในกิจกรรม “ต้อนรับนักท่องเที่ยวครบ 10 ล้านคน(Amazing Thailand 10 Million Celebrations) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคมนี้ และเชื่อว่าจะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นหลังจากนี้ ซึ่งการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญของตลาดหุ้นไทย

“เป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจไทย อันเป็นผลจากพล.อ.ประยุทธ์ มีแผนและนโยบายส่งเสริมการลงทุนการพัฒนาประเทศที่ชัดเจนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะความคืบหน้าของโครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่ง ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ การเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันประคับประคองสถานการณ์จนเศรษฐกิจเข้มแข็ง และเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยและเศรษฐกิจไทยจะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน  จึงขอความร่วมมือกันให้ข้อมูลและข่าวสารอย่างสร้างสรรค์ เพื่อรักษาบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน อันส่งผลถึงรายได้ประเทศ รายได้ประชาชนด้วย” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ที่มา :