ทล. และ วสท. ลงพื้นที่ตรวจสอบการติดตั้งเหล็กเสริมส่วนเชื่อมต่อโครงสร้างสะพาน และติดตั้งราวสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กสะพานกลับรถ บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) กม.ที่ 34

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ รุจิจรรยาวัฒน์ ผอ.สำนักก่อสร้างสะพาน นายพรชัย ศิลารมย์ ผอ.ศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผอ.แขวงทางหลวงสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินงานซ่อมแซมและบูรณะสะพานลอยกลับรถ บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) กม. ที่ 34 บริเวณหน้าโรงพยาบาลวิภาราม จ.สมุทรสาคร ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565

นายสราวุธ ทรงศิวิไล กล่าวถึงความคืบหน้าการซ่อมแซมสะพานลอยกลับรถดังกล่าวว่า กรมทางหลวง (ทล.) โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยเน้นการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยผู้ใช้ทางถึงความกังวลและความเชื่อมั่นในความแข็งแรงของโครงสร้างสะพานที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งคานรูปตัวที ที่มีลักษณะเป็นคานคอนกรีตอัดแรงสำเร็จรูปจำนวน 5 คาน พร้อมตรวจสอบระดับตำแหน่งที่เหมาะสม ติดตั้งเหล็กเสริมส่วนเชื่อมต่อโครงสร้างสะพาน และติดตั้งราวสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กแล้วเสร็จ พร้อมที่จะเปิดการจราจรบนเส้นทางหลักในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 เวลา 06.00 น. 

นอกจากนี้ นายเอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้กล่าวถึงการตรวจสอบการทำงานทุกขั้นตอนของศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ว่า ทล. ได้ดำเนินการซ่อมแซมตามแบบและแผนงานได้อย่างครบถ้วนและเป็นไปตามแนวทางที่ วสท. กำหนดไว้ หลังจากการซ่อมแซมดังกล่าวแล้วเสร็จ วสท. จะทำการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างสะพาน ทั้งการวัดค่าการแอ่นตัวของสะพานในการรับน้ำหนักบรรทุกจริงโดยใช้รถบรรทุกขนาดมาตรฐานวิ่งขึ้นไปเพื่อทดสอบว่าสะพานที่ซ่อมแล้วเสร็จสามารถรับน้ำหนักได้ตามพิกัดน้ำหนักที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งตามแผนการดำเนินงานจะทำการทดสอบในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 โดยหลังจากดำเนินการทดสอบแล้ว จะพิจารณาเปิดใช้สะพานลอยกลับรถโดยเร็วที่สุดต่อไป ทั้งนี้นับเป็นการดำเนินงานที่แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนเดิมประมาณ 1 เดือน ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางได้อย่างดียิ่ง

ทล. ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุต่าง ๆ สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน กรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)
ที่มา : 

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar