กรมอนามัย ห่วงวัยทำงานใช้สายตาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือดูจอมือถือมาก แนะกินอาหารดีมีประโยชน์อุดมไปด้วยสารอาหาร "ช่วยบำรุงสุขภาพตา พร้อมแนะวิธีปรับพฤติกรรมการใช้สายตาให้เหมาะสม"

กรมอนามัย ห่วงวัยทำงานใช้สายตาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือดูจอมือถือมาก #แนะกินอาหารดีมีประโยชน์อุดมไปด้วยสารอาหาร "ช่วยบำรุงสุขภาพตา พร้อมแนะวิธีปรับพฤติกรรมการใช้สายตาให้เหมาะสม"

นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในสังคมยุคดิจิทัลที่แต่ละวันกลุ่มคนวัยทำงานต้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เป็นเวลานานติดต่อกัน อาจทำให้ได้รับผลกระทบ เช่น ภาวะตาล้า ตาแห้ง ตาพร่า น้ำตาไหล หรือร้ายแรงกว่านั้นอาจเสี่ยงกับโรคจอประสาทตาเสื่อม โดยเฉพาะผู้ที่นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานวันละ 10 ชั่วโมง #ควรดูแลรักษาและใช้สายตาให้เหมาะสม โดยหยุดพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุก 2 ชั่วโมง ครั้งละประมาณ 15 นาที

นอกจากนี้ ควรกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพตา เช่น วิตามินเอ วิตามินซี ลูทีน ซีแซนทีน กรดไขมัน ที่มีความสำคัญต่อการมองเห็น โดยได้รับจากอาหารต่าง ๆ ดังนี้

1.)ผัก ผลไม้หลากสี โดยเฉพาะผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเอ เช่น ผักบุ้ง บรอกโคลี คะน้า ตำลึง ผักโขม ปวยเล้ง กวางตุ้ง ดอกกุยช่าย ขึ้นฉ่าย ช่วยให้การทำงานของเซลล์จอประสาทตาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผัก ผลไม้สีม่วง จะมีสารแอนโธไซยานินช่วยในการมองเห็น ผัก ผลไม้สีเหลือง แดง มีสารจำพวกแคโรทีนอยด์ หรือ Pro-Vitamin A ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอภายในร่างกาย นอกจากนี้ ผัก ผลไม้หลากสี ยังอุดมด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อาหารบำรุงสายตาที่มีสีสันเหล่านี้ ได้แก่ มะเขือเทศ แครอท ฟักทอง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะม่วงสุก มะละกอสุก เป็นต้น

2.)ปลาทะเล โดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งประกอบไปด้วยกรด EPA และ DHA มีส่วนช่วยบำรุงสมอง และจอประสาทตา ช่วยป้องกันภาวะตาแห้ง ลดภาวะการอ่อนล้าของตา

.

3.)ไข่ วัตถุดิบประจำบ้านที่ใช้ประกอบอาหารได้ง่าย อุดมไปด้วยประโยชน์ ในไข่แดงมีสารลูทีน และซีแซนทีน ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตา ป้องกันการเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา ลดภาวะโรคจอประสาทตาเสื่อม

.นอกจาก การกินอาหารธรรมชาติที่มีสารอาหารบำรุงสายตาสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างหนึ่ง คือ การปรับพฤติกรรมการใช้สายตา การอ่านหนังสือ หรือทำงานควรมีแสงสว่างเพียงพอ เลี่ยงการดูโทรทัศน์ ใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตในขณะที่ปิดไฟ เพื่อไม่ใช้สายตาเพ่ง หรือทำงานหนักมากเกินไป และไม่ควรใช้สายตาต่อเนื่องเป็นเวลานาน แบ่งเวลาพักสายตาทุก 20 นาที ลดความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือ ติดฟิล์มลดแสง พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อถนอมดวงตา และยืดอายุดวงตาให้เสื่อมช้าลงด้วย

ข้อมูล : กรมอนามัย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar